เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คนดังตะวันตกกล่าวว่า พบสุขปิ่มหัวใจเมื่อได้เป็นพุทธ

พระพุทธศาสนา บูมสุด ๆ ในประเทศตะวันตก

พระพุทธศาสนา บูมสุด ๆ  ในประเทศตะวันตก


คนดังตะวันตกกล่าวว่า พบสุขปิ่มหัวใจเมื่อได้เป็นพุทธ

ดูที่ : http://www.answers.com/topic/some-mistakes-of-moses


ท่านเคยนึกสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ทำไมปัจจุบันนี้ ปัญญาชนระดับแนวหน้าของโลก รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง กำลังหันมาศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธศาสนากันเป็นจำนวนมาก ดร.แดเนียล โคลแมน (Dr. Daniel Coleman) นักเขียนเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์และเชาวน์ปัญญา เชื่อว่าการปฏิบัติสมาธิตามหลักพระพุทธศาสนา คือคำตอบที่เป็นทางออกของปัญหาทางอารมณ์ ที่กำลังนำมนุษยชาติไปสู่หายนะอยู่ทุกขณะจิตในปัจจุบัน และอีกท่านหนึ่ง คือ ศาสตราจารย์ แสตนฟอร์ด (Prof. Standford) ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกซ์ ประจำปี 1997 ร่วมกับ ดร.สตีเฟน จู (Dr. Steven Chu) ได้กล่าวว่า “ทุกแง่ทุกมุมของพระพุทธศาสนา ล้วนดึงดูดและสร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้ง” ให้แก่ผู้ที่ได้เข้าไปทำความรู้จัก นับตั้งแต่นักแต่งเพลงอย่างฟิลลิป กลาส (Philip Glass) จนถึงดาราภาพยนตร์อย่าง ริชาร์ด เกียร (Richard Gere), สตีเฟน ซีกัล (Steven Seagal) แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) และโกลดี ฮอน (Goldie Hawn) ตลอดจนถึงนักร้องชื่อดัง อย่างเช่น ทีน่า เทอรเนอร (Tina Turner) และนักฟุตบอล อย่างเช่น โรเบอร์โต บั๊กโจ้ (Roberto Bugiou) บรรดาท่านที่กล่าวนามมานี้ ต่างก็ล้วนแต่ได้พบความเอิบอิ่มใจ และได้มีความสุข สงบเย็นในพระพุทธศาสนา อย่างที่เขาไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิต

อีกอย่างหนึ่ง ท่านคงจะเคยนึกสงสัยว่า เหตุใดซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยอย่าง IBM จึงเอาคำที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามาตั้งชื่อโปรแกรม โดยให้ชื่อว่า “Lotus 1; Lotus 2; Lootus 3” คำว่า “Lotus” หรือ “ดอกบัว” ที่ชาวพุทธทั่วโลกถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา จะเห็นได้จากพระพุทธรูปที่เป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นปางประทับนั่งหรือยืนหรือไสยาสน์ ก็ต้องมีดอกบัวรองรับเสมอ แม้แต่เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์แห่งเมตตาธรรมในนิกายมหายาน ก็มีดอกบัวรองรับเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีพระคัมภีร์สำคัญสูตรหนึ่งในนิกายมหายาน ใช้คำ ๆ นี้เป็นชื่อพระสูตรคือ “Lotus Sutra” ซึ่งมีชื่อในภาษาไทยว่า “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” หรือแม้แต่เจ้าชายสิทธัตถะที่ต่อมาได้ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะประสูติจากพระครรภ์ของพระราชินีสิริมหามายาพระมารดา ก็มีจารึกไว้ในพุทธประวัติว่าได้ทรงพระดำเนินไป ๗ ก้าว โดยมีดอกบัวมารองรับ ดังนั้น ถ้าเราจะพิจารณาให้ลึกซึ้ง ก็จะเห็นความเป็นผู้มีอัจฉริยภาพ ของบุคคลที่คิดนำเอาคำที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของพระพุทธศาสนา ซึ่งเคยเป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ในประเทศอินเดียในอดีต กว่า 2,500 ปีมาแล้ว มาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นนวัตกรรมยุคใหม่หรือยุค IT คือซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ ที่มีชื่อว่า “Lotus 1, Lotus 2, และLotus 3” บุคคลผู้นี้เป็นชาวพุทธอเมริกัน ที่เราขอปรบมือให้ คือคุณ Michell Kapor ผู้ก่อตั้งบริษัท Lotus Development Corporation และถือว่าเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดโปรแกรม Lotus 1-2-3 นับได้ว่าเป็นชาวพุทธตะวันตกที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในแงที่คำสอนไม่เก่าและล้าสมัยสมดังคำสวดสรรเสริญพระธรรมบทว่า “อกาลิโก” หมายความว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคำสอนที่ทันสมัยและเป็นจริงอยู่เสมอ เป็นจริงในอดีต เป็นจริงในปัจจุบัน และเป็นจริงในอนาคต จึงเป็นศาสนาที่เหมาะกับทุกยุคทุสมัย

นอกจากจะไม่อิงกับกาลเวลาแล้ว พระพุทธศาสนายังถือได้เป็นศาสนาสากล (universal Religion) เหมาะสมกับประชาชนผู้ปฏิบัติทุกเชื้อชาติศาสนาในสากลจักรวาล ทั้งไม่จำกัดเพศและวัย พระพุทธศาสนาอธิบายให้เราทราบว่า ปัญหาของมนุษย์เราแทบจะทุกปัญหา เกิดขึ้นจากสภาพของจิตทีไม่มีสมาธิ ที่มีแต่ความฟุ้งซ่านสับสนวุ่นวาย ที่ขาดปัญญาไตร่ตรอง ที่ไม่รู้ความจริงตามที่มันเป็นจริง จึงต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมรับความจริงนั้น ทำให้จิตตกอยู่ในสภาพต้องดิ้นรนกระวนกระวาย จนกลายเป็นทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงสั่งสอนเราให้ดำเนินตามพุทธสมาธิวิธี ที่จะขัดเกลาอบรมจิต หรือชำระจิตที่ถูกกิเลสครอบงำ อันนำไปสู่สภาพที่ก่อให้เกิดหายนะเสีย เพื่อทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาดเข้าสู่ภาวะที่สงบสุขสมหวังอย่างแท้จริง สภาวะดังกล่าวนี้สามารถจะเกิดขึ้นได้ในบุคคลทุกเพศวัย ไม่ว่าผู้นั้นจะอยู่ในประเทศไหนในโลก ดังที่ได้เกิดขึ้นแล้วแก่คนดังทั้งตะวันออกที่จะกล่าวไว้ในที่นี้ก็คือ ดาราภาพยนตร์ชื่อก้องทั้งสอง คือ ริชาร์ด เกียร (Richard Gere) และ เจ๊ท ลี (Jet Li) และอื่น ๆ ที่มิอาจระบุไว้ ณ ที่นี้





อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ...กล่าวถึงพระพุทธศาสนาก่อนเสียชีวิต

มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน ได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง " The Human Side " ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า

The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein)

"ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้
....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพัทธภาพ


คำพูดของไอสไตล์นั้นมีความนัยที่สำคัญซ่อนอยู่และรอคอยการค้นพบ และทฤษฎีเอกภาพหรือทฤษฎีสรรพสิ่งที่ต้องการค้นหานั้น ที่จริงพระพุทธเจ้าได้ตอบให้เบ็ดเสร็จก่อนหน้านั้น 2500 ปี

[1954, from Albert Einstein:The Human Side, edited by Helen Dukas and Banesh Hoffman, Princeton University Press]
http://en.wikipedia.org/wiki/Albert_Einstein
http://www.mlahanas.de/Privat/quotations.htm http://members.shaw.ca/sanuja/buddhismquorts.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น