เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คำคมบาดลึก.....แห่งบุรุษ ระบือโลก มหาตมะ คานธี




คำคมบาดลึก.....แห่งบุรุษ ระบือโลก มหาตมะ คานธี

(1/2) > >>

Eak_11:
รพินทรนาถ ฐากูร มหากวี ผู้นำทางจิตวิญญาณของอินเดีย และผู้เป็นเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ที่มีชื่อเสียงก้องโลก คือ ผู้ขนานนามให้กับชายร่างเล็ก แต่งตัวปอนๆ ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่มีจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ อย่าง โมหันทาส การามจันทร์ คานธีว่า



“มหาตมะ คานธี”

มหาตมะ แปลว่า “ผู้มีจิตวิญญาณอันสูงส่ง” หรือ “ผู้มีจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่”

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวถึงมหาตมะ คานธีว่า
“คงเป็นการยากที่อนุชนคนรุ่นหลังจะเชื่อว่า มนุษย์ที่มีเนื้อหนังมังสาอย่างคานธี เคยมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จริงๆ”

โมหันทาส การามจันทร์ คานธี สำคัญอย่างไร จึงได้รับการขนานนามให้เป็น “มหาตมะ” ที่คนทั้งประเทศอินเดียและทั่วโลกต่างซ้องสาธุการ

- คานธี คือ ผู้นำชาวอินเดียในสหภาพแอฟริกาใต้ ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลผิวขาวด้วยสันติวิธี จนรัฐบาลผิวขาวต้องยอมคืน “สิทธิแห่งความเป็นคน” ให้แก่ชาวผิวดำและผิวขาวอย่างเท่าเทียม
- คานธี คือ ผู้นำชาวอินเดียในบ้านเกิดของตัวเอง ลุกขึ้นมาเรียกร้องอิสรภาพให้กับแผ่นดินถิ่นเกิดด้วยสันติวิธี จนในที่สุดประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักรต้องยอมคืนอิสรภาพให้แก่ ประชาชนชาวอินเดียทั้งชาติ
- คานธี คือ ผู้ที่มีส่วนอย่างมีนัยสำคัญในการก่อร่างสร้างประเทศอินเดียขึ้นมาให้เป็น ปึกแผ่น จนอินเดียกลายเป็นประเทศเอกราชที่มีรากฐานทางการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้
- คานธี คือ ผู้ที่นำเอาศาสนากับการเมืองเคลื่อนเข้ามาบรรจบกัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเรามีความเชื่อกันว่าสองสิ่งนี้จะต้องแยกขาดจากกันอย่าง สิ้นเชิง แต่คานธีไม่เชื่อเช่นนั้น ท่านยืนยันว่า

“ผู้ ที่พูดว่าศาสนาไม่เกี่ยวกับการเมืองนั้นเป็นผู้ที่ไม่ทราบความหมายของศาสนา สำหรับข้าพเจ้าแล้ว การเมืองที่ปราศจากหลักธรรมทางศาสนา เป็นเรื่องของความโสมมที่ควรสละละทิ้งเสียเป็นอย่างยิ่ง การเมืองเป็นเรื่องของประเทศชาติ และเรื่องที่เกี่ยวกับสวัสดิภาพของประเทศชาตินั้นต้องเป็นเรื่องของผู้ที่มี ศีลธรรมประจำใจ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องนำเอาศาสนจักรไปสถาปนาไว้ในวงการการเมืองด้วย”

เหนืออื่นใดคานธีเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ที่ทำภารกิจสูงส่งต่อมนุษยชาติ ทว่ากลับทำตัวต่ำต้อยอย่างยิ่ง ภาพชินตาที่ทุกคนนึกถึงเมื่อเอ่ยอ้างถึงท่านก็คือ ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่นุ่งเจียม ห่มเจียม สมถะ สันโดษ มีศีลมีสัตย์ หนักแน่นในสัจจะ ลอยอยู่เหนือกองผลประโยชน์ทั้งปวง แม้ทั่วโลกยกย่อง แต่ท่านกลับถ่อมตัวต่ำติดดินดังท่านเขียนถึงตัวเองว่า



“ข้าพเจ้าเป็นนักบวชที่ยากจน ทรัพย์สินที่ข้าพเจ้ามีอยู่ในโลกนี้ มีกงล้อปั่นด้าย 6 เครื่อง จานรับประทานอาหารตั้งแต่อยู่ในคุก 1 ใบ กระป๋องใส่นมแพะ 1 ใบ ผ้านุ่งโธตี และผ้าเช็ดตัวทอด้วยมือ 6 ชิ้น นอกนั้นก็มีแต่ชื่อเสียง ซึ่งก็ไม่มีราคาค่างวดหรือความหมายอะไร”

โลก....มีทรัพยากร ที่จะแบ่งปันให้แก่...พวกมนุษย์ทุกคน...ที่จําเป็น
แต่...ไม่มีพอ ที่จะสนองความโลภ....ของคน...แม้คนเดืยว....

ผุ้ใด....ที่เข้าถึงศาสนา....ของตนเอง ผุ้นั้น....ย่อมเข้าถึงศาสนา
ของผุ้อื่น...ด้วย...

ความแข็งแรง.....ย่อมมิได้มา... จากความสามารถ....ทางกายภาพ
มันมาจาก....น้ำาใจที่ทรหด......อดทน...ต่างหาก....

"จงใช้ชีวิตราวกับว่า คุณจะตายในวันพรุ่งนี้
จงเรียนรู้ราวกับว่า คุณจะมีชีวิตอยู่ตลอดกาล"

คําคมจาก ท่านมหาตมะ คานธี

ที่มา.... http://www.posttoday.com/lifestyle/health-me/ใจ/58579/จิตวิญญาณแห่งคานธี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น