เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พุทธศาสนสุภาษิต หมวดบัณฑิต



ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล

สาธุ โข ปณฺฑิโต นาม
สํ. ส. ๑๕/๘๒๕
บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง
ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ
ที.ปา. ๑๑/๑๙๗
บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์
อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต
องฺ.จตุกฺก ๒๑/๔๒
ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด
ทนฺโต เสฎฺโฐ มนุสฺเสสุ
ขุ. ธ. ๒๕/๓๓
คนฉลาดย่อมละบาป
กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ
ขุ.อุ. ๒๕/๑๖๘
คนมีปัญญา ย่อมแนะนำทางที่ควรแนะนำ
นยํ นยติ เมธาวี
ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๑๘๑๙
ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ
ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเก
ขุ.ชา. ๒๗/๙๓๖
ผู้ใดไม่พูดเป็นธรรม ผู้นั้นไม่ใช่สัตบุรุษ
สนฺโต น เต เย น วทนฺติ ธมฺมํ
สํ. ส. ๑๕/๗๒๕
สัตบุรุษยินดีในการเกื้อกูลสัตว์สนฺโต สตฺตหิเต รตา
ชาตฏฺฐกถา ๑/๒๓๐
สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฎได้ในที่ใกล เหมือนภูเขาหิมพานต์
ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต
ขุ.ธ. ๒๕/๓๑
สัตบุรุษมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า
สนฺโต สคฺคปรายนา
ขุ. ชา. ๒๗/๑๔๔๘
ผู้สงบใจได้ ย่อมนอนเป็นสุข
อุปสนฺโต สุขํ เสติ
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๔๑๕.
กลิ่นของสัตบุรุษย่อมหอนทวนลมได้
สตญจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
ขุ. ธ. ๒๕/๑๔
คนซึ่งรู้สึกตนว่าโง่ จะเป็นผู้ฉลาดเพราะเหตุนั้นได้บ้าง
โย พาโล มญฺญติ พาลฺยํ ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส
ขุ. ธ. ๒๕/๑๕
อสัตบุรุษ แม้นั่งอยู่ในที่นี้เองก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน ฉะนั้น

อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ รตฺติขิตฺตา ยถา สรา
ขุ.ธ. ๒๕/๓๑
อสัตบุรุษย่อมไปนรก
อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ
สํ. ส. ๑๕/๙๐
ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ
สุวิชาโน ภวํ โหติ
ขุ. สุ. ๒๕/๓๐๔
ผู้เคารพย่อมมีผู้เคารพตอบ
ครุ โหติ สคารโว
ขุ. ชา. ๒๘/๔๐๑
ผู้ไหว้ย่อมได้รับไหว้ตอบ
วนฺทโก ปฎิวนฺทนํ
ขุ. ชา. ๒๘/๔๐๑
ผู้กินคนเดียวไม่ได้ความสุข
เนกาสี ลภเต สุขํ
ขุ. ชา. ๒๗/๑๖๗๔
คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต
ขุ. ธ. ๒๕/๒๗
คนแข็งกระด้างก็มีเวร
อติติกฺโข จ เวรวา
ขุ. ชา. ๒๗/๑๗๐๓
คนตรงไม่พูดคลาดความจริง
น อุชุภูตา วิตถํ ภณนฺติ
ขุ. ชา. ๒๗/๕๐๓
มารดาบิดาท่านว่าเป็นบูรพาจารย์ (ของบุตร)
ปุพพาจริยาติ วุจฺจเร
องฺ.ติก. ๒๐/๑๖๘
มารดาบิดาเป็นที่นับถือของบุตร
อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ
ขุ.อิติ. ๒๕/๒๘๖
สามีเป็นเครื่องปรากฏของสตรี
ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา
สํ.ส. ๑๕/๕๗
บรรดาภริยาทั้งหลาย ภริยาผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ประเสริฐ
สุสฺสูสา เสฏฺฐา ภริยานํ
สํ.ส. ๑๕/๑๐
บรรดาบุตรทั้งหลาย บุตรผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ
โย จ ปุตฺตา นมสฺสโว
สํ.ส. ๑๕/๑๐
ผู้มีความดี จงรักษาความดีของตนไว้
คุณวา จาตฺตโน คุณํ
ขุ.ชา.สตฺตก. ๒๗/๒๑๒
เมื่อเขาขอโทษ ถ้าผู้ใดมีความขุ่นเคือง
โกรธจัด ไม่ยอมรับ ผู้นั้นชื่อว่า หมกเวรไว้

อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ โย เจ น ปฏิคณฺหติ
โกปนฺตโร โทสครุ ส เวรํ ปฏิมุจฺจติ
สํ.ส. ๑๕/๑๑๐

ผู้ที่มีมารดาบิดาเลี้ยงมาได้โดยยากอย่างนี้
ไม่บำรุงมารดาบิดา ประพฤติผิดในมารดาบิดา ย่อมเข้าถึงนรก

เอวํ กิจฺฉาภโต โปโส ปิตุ อปริจารโก
ปิตริมิจฺฉาจริตฺวาน นิรยํ โส อุปปชฺชติ
ขุ.ชา. ๒๘/๑๖๒

ถีงเป็นคนมีเดช มีปัญหาเฉียบแหลม อันคนเป็นอันมากสักการบูชา อยู่ในอำนาจสตรีเสียแล้วย่อมไม่รุ่งเรือง เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบังฉะนั้น
เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ
สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต
นารีนํ วสงฺคโต น ภาสติ
ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา
ขุ.ชา. ๒๘/๓๑๓

สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฎได้ในที่ใกล เหมือนภูเขาหิมวันต์
อสัตบุรุษทั้งหลายถึงในที่นี้ก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน ฉะนั้น

ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ รตฺติขิตฺตา ยถา สรา
ขุ.ธ. ๒๕/๓๑
ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ
เพราะการสงเคราะห์นั้น เขาย่อมได้เกียรติ ละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์

ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเก
เตน โส กิตฺตึ ปปฺโปติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
ขุ.ชา. ๒๗/๙๓๖
ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน
แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น

มธุวา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ
ยทา จ ปจฺจติ ปาปํ อถ (พาโล) ทุกฺขํ นิคจฺฉติ
ขุ.ธ. ๒๕/๑๕
ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี
ผู้นั้นย่อมยังโลกให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆ

ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปิถียติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา
ม.ม. ๑๓/๕๓๔

บุคคลนั่งหรือนอน (อาศัย) ที่ร่มเงาตันไม้ใด
ไม่ควรรานกิ่งต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลวทราม

ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา
น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก
ขุ.เปต. ๒๖/๑๐๖

ผู้ใดย่อมเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรม
บัณฑิตย่อมสรรเสริญผู้นั้นในโลกนี้ เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์

โย มาตรํ ปิตรํ วา มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ
อิเธว นํ ปสํสนฺติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
ขุ.ชา. ๒๘/๕๒๒

ผู้ใดไม่โกรธ ไม่ผูกโกรธ ไม่ลบหลู่ ถึงความหมดจด มีทิฏฐิสมบูรณ์ มีปัญญา, พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นอริยะ.
อกฺโกธโน อนุปนาหี อมกฺขี สุทฺธตํ คโต
สมฺปนฺนทิฏฺฐิ เมธาวี ตํ ชญฺญา อริโย อิติ
(สารีปุตฺตเถร) ขุ ปฏิ. ๓๑/๒๔๑.

คนเขลาย่อมซูบซีด เพราะคำนึงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง เพราะเศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว เหมือนต้นอ้อสดที่ถูกตัด.
อนาคตปฺปชปฺปาย อตีตสฺสานุโสจนา
เอเตน พาลา สุสฺสนฺติ นโฬว หริโต ลุโต.
สํ. ส. ๑๕/๗.

คนฉลาด ไม่ฟุ่งซ่าน ไม่คลอนแคลน มีปัญญา สำรวมอินทรีย์ มีมิตรดี พึงทำที่สุดทุกข์ได้.
อนุทฺธโต อจปโล นิปโก สํวุตินฺทฺริโย
กลฺยาณมิตฺโต เมธาวี ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา.
(อญฺญาโกณฺฑญฺญเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๖๖.

กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก, บัณฑิตรู้ดังนี้แล้ว ไม่ใยดีในกามแม้เป็นทิพย์.
อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา อิติ วิญฺญาย ปณฺฑิโต
อปิ ทิพฺเพสุ กาเมสุ รตึ โส นาธิคจฺฉติ.
ขุ. ธ. ๒๕/๔๐.

ผู้ประกอบตนในสิ่งที่ไม่ควรประกอบ และไม่ประกอบตนในสิ่งควรประกอบ ละประโยชน์เสีย ถือตามชอบใจ ย่อมกระหยิ่มต่อผู้ประกอบตนเนืองๆ.
อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ โยคสฺมิญฺจ อโยชยํ
อตฺถํ หิตฺวา ปิยคฺคาหี ปิเหตตฺตานุโยคินํ.
ขุ. ธ. ๒๕/๔๓.
ผู้ใดรู้ธรรมของอสัตบุรุษและของสัตบุรุษ ทั้งภายใน ทั้งภายนอก มีเทวดาและมนุษย์บูชาในโลกทั้งปวง ผู้นั้นจึงล่วงข่ายคือเครื่องข้องได้ และเป็นมุนี.
อสตญฺจ สตญฺจ ญตฺวา ธมฺมํ
อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก
เทวมนุสฺเสหิ จ ปูชิโต โย
โส สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนิ.
ขุ. สุ. ๒๕/๔๓๒. ขุ. มหา. ๒๙/๔๐๖.

สมณะภายนอกไม่มี, สังขารเที่ยงไม่มี, ความหวั่นไหวของพระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มี, เหมือนรอยเท้าไม่มีในอากาศ.
อากาเสว ปทํ นตฺถิ สมโณ นตฺถิ พาหิโร
สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ นตฺถิ พุทฺธานมิญฺชิตํ.
ขุ. ธ. ๒๕/๔๙.

เกียรติยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วจึงทำ สำรวมแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท.
อุฏฺฐานวโต สตีมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน
สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ.
ขุ. ธ. ๒๕/๑๘.

ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ คนละความชนะและความแพ้ได้แล้ว สงบใจได้ ย่อมนอนเป็นสุข
ชยํ เวรํ ปสวติ ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต
อุปสนฺโต สุขํ เสติ หิตฺวา ชยปราชยํ.
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๔๑๕.

(เพราะธรรมของสัตบุรุษยากที่อสัตบุรุษจะประพฤติตาม) คติที่ไปจากโลกนี้ของสัตบุรุษและอสัตบุรุษจึงต่างกัน, คืออสัตบุรุษไปนรก, สัตบุรุษไปสวรรค์.

ตสฺมา สตญฺจ อสตญฺจ นานา โหติ อิโต คติ
อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ สนฺโต สคฺคปรายนา.
ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๔๑๕

เพราะนักปราชญ์มีสติตั้งมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่เสพกามและบาป พึงละกามทั้งทุกข์ได้ ท่านจึงกล่าวบุคคลนั้นว่า ผู้ไปทวนกระแส.
ตสฺมา หิ ธีโร อิธุปฏฺฐิตาสติ
กาเม จ ปาเป จ อเสวมาโน
สหาปิ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม
ปฏิโสตคามินี ตมาหุ ปุคฺคลํ.
องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๗.

เมื่อสัตบุรุษให้สิ่งที่ให้ยาก ทำกรรมที่ทำได้ยาก, อสัตบุรุษย่อมทำตามไม่ได้ เพราะธรรมของสัตบุรุษยากที่อสัตบุรุษจะประพฤติตาม
ทุทฺททํ ททมานานํ ทุกฺกรํ กมฺมกุพฺพตํ
อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๖๓.

บุคคลเป็นคนเลวเพราะชาติก็หาไม่ เป็นผู้ประเสริฐเพราะชาติก็หาไม่ (แต่) เป็นคนเลวเพราะการกระทำ เป็นผู้ประเสริฐก็เพราะการกระทำ.
น ชจฺจา วสโล โหติ น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ
กมฺมุนา วสโล โหติ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ.
ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๒.

บุคคลถึงความสำเร็จแล้ว (พระอรหันตผล) ไม่สะดุ้ง ปราศจากตัณหา ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน ตัดลูกศรอันจะนำไปสู่ภพได้แล้ว ร่างกายจึงชื่อว่า มีในที่สุด.
นิฏฺฐํ คโต อสนฺตาสี วีตตณฺโห อนงฺคโณ
อจฺฉินฺทิ ภวสลฺลานิ อนฺติโมยํ สมุสฺสโย.
ขุ. ธ. ๒๕/๖๓.

ผู้ใดมีความสัตย์ มีธรรม มีความไม่เบียดเบียน มีความสำรวม
และมีความข่มใจ ผู้นั้นแล ชื่อว่า ผู้มีปัญญา หมดมลทิน เขาเรียกท่านว่า เถระ.


ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ อหึสา สญฺญโม ทโม
ส เว วนฺตมโล ธีโร โส เถโรติ ปวุจฺจติ.
ขุ. ธ. ๒๕/๕๐.

เมื่อใด บัณฑิตรู้ว่า ชราและมรณะเป็นทุกข์ กำหนดรู้ทุกข์ซึ่งเป็นที่อาศัยแห่งปุถุชน มีสติเพ่งพินิจอยู่ เมื่อนั้น ย่อมไม่ประกอบความยินดีที่ยิ่งกว่านั้น.
ยทา ทุกฺขํ ชรามรณนฺติ ปณฺฑิโต
อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชชนา
ทุกฺขํ ปริญฺญาย สโต ว ฌายติ
ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ.
(ภูตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๔๔.

คนบางพวกเหล่าใด ไม่สำรวมในกาม ยังไม่ปราศจากราคะ เป็นผู้บริโภคกามในโลกนี้, คนเหล่านั้นถูกตัณหาครอบงำ ลอยไปตามกระแส (ตัณหา) ต้องเป็นผู้เข้าถึงชาติชราร่ำไป.
เย เกจิ กาเมสุ อสญฺญตา ชนา
อวีตราคา อิธ กามโภคิโน
ปุนปฺปุนํ ชาติชรูปคา หิ เต
ตณฺหาธิปนฺนา อนุโสตคามิโน.
องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๗.

คนเหล่าใดเขลา มีปัญญาทราม มีความคิดเลว ถูกความหลงปกคลุม, คนเช่นนั้น ย่อมติดเครื่องผูกอันมารทอดไว้นั้น.
เย จ โข พาลา ทุมฺเมธา ทุมฺมนฺตี โมหปารุตา
ตาทิสา ตตฺถ รชฺชนฺติ มารกฺขิตฺตสฺมิ พนฺธเน.
(นนฺทกเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๑๒.

ผู้มีปัญญาเหล่าใด ประกอบด้วยศีล ยินดีในความสงบด้วยปัญญา ผู้มีปัญญาเหล่านั้น เว้นไกลจากความชั่วแล้ว ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น.

เย จ สีเลน สมฺปนฺนา ปญฺญายูปสเม รตา
อารกา วิรตา ธีรา น โหนฺติ ปรปตฺติยา.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๔๓.

ผู้มีปัญญาเหล่าใด ขวนขวายในฌาน ยินดีในความสงบอันเกิดจากเนกขัมมะ เทวดาทั้งหลายก็พอใจต่อผู้มีปัญญา ผู้รู้ดีแล้ว มีสติเหล่านั้น.

เย ฌานปสุตา ธีรา เนกฺขมฺมูปสเม รตา
เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ.
ขุ. ธ. ๒๕/๓๙.

ผู้ใดเป็นคนขัดเคือง เหนียวแน่น ปรารถนาลามก ตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวบาป พึงรู้ว่า ผู้นั้นเป็นคนเลว.

โรสโก กทริโย จ ปาปิจฺโฉ มจฺฉรี สโฐ
อหิริโก อโนตฺตปฺปี ตํ ชญฺญา วสโล อิติ.
ขุ. สุ. ๒๕/๓๕๑.

ผู้มีบุตรย่อมเศร้าโศกเพราะบุตร, ผู้มีโคย่อมเศร้าโศกเพราะโคเหมือนกัน, นรชนมีความเศร้าโศกเพราะอุปธิ, ผู้ใด ไม่มีอุปธิ ผู้นั้น ไม่ต้องเศร้าโศกเลย.
โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา
โคมิโก โคหิ ตเถว โสจติ
อุปธีหิ นรสฺส โสจนา
น หิ โส โสจติ โย นิรูปธิ.
สํ. ส. ๑๕/๙.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น