เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

3ปีมานี้..คนไทยแฮ๊ปปี้มากกว่าเดิม....?

ในรอบ 3 ปี คนไทยสุขมากขึ้น-ชายสุขกว่าหญิง

ในรอบ 3 ปี คนไทยสุขมากขึ้น-ชายสุขกว่าหญิง





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สำนักงานสถิติแห่งชาติ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล และ สสส. ร่วมแถลงผลการสำรวจสุขภาพจิตคนไทยในรอบ 3 ปี (2551-2553) โดยการทำผลสำรวจนี้ จะช่วยให้ได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปัจจัยความสุขคนไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบาย ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เอื้อต่อการสร้างความสุขคนไทย

ทั้งนี้ ผลการสำรวจสุขภาพจิตคนไทยในปีที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่าง 87,000 คนทั่วประเทศ พบว่า แนวโน้มสุขภาพจิตคนไทยดีขึ้น โดยมีคะแนนตามแบบประเมินความสุขของกรมสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นจาก 31.80 คะแนน ในปี 2551 เป็น 33.09 และ 33.30 ในปี 2552, 2553 ตามลำดับ

โดยระดับคะแนนของจังหวัดที่มีความสุขมากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ จ.พังงา ตรัง มหาสารคาม นราธิวาส และตาก ซึ่ง จ.พังงา มีคะแนนเป็นจังหวัดที่มีความสุขมากติดกันเป็นปีที่ 2 ส่วนจังหวัดที่มีความสุขต่ำ 5 ลำดับ คือ สมุทรสงคราม สุโขทัย ภูเก็ต สมุทรปราการ และสระแก้ว

ส่วนเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ มีคะแนนความสุขในปี 2552 อยู่ที่ลำดับ 59 แต่ปี 2553 ลดลงอยู่ที่ลำดับ 65 โดยระดับความสุขคนกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2551- 2552 ดีขึ้น และลดต่ำลงช่วงปลายปี 2552 เข้าสู่ปี 2553 ทั้งนี้เนื่องจากปัจจัยหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องในครอบครัว เศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยพบว่า คะแนนเรื่องสมรรถภาพของจิตใจคนกรุงเทพฯ ต่ำสุด หมายถึง ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง การมีจิตใจสาธารณะ และมองโลกในแง่ร้ายมากกว่าคนในภาคอื่น

ผลสำรวจยังระบุอีกด้วยว่า เพศชายมีสุขภาพจิตดีกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถภาพทางใจ คือ สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า และคนที่อยู่ในวัย 40-59 ปี เป็นกลุ่มที่มีสุขภาพจิตดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในปี 2552 คะแนนสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึงร้อยละ 4.6 โดยพบว่า คนมีสถานะสมรสมีความสุขมากที่สุด รองลงมาเป็น คนโสด และน้อยที่สุดคือ กลุ่มหย่าร้าง



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น