เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ชาวสิงคโปร์ใจบุญ รวมเงิน 6.5 ล้าน ช่วยน้องธันย์

ชาวสิงคโปร์ใจบุญ รวมเงิน 6.5 ล้าน ช่วยน้องธันย์







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย ladyEdnaMode, รายการ เจาะข่าวเด่น

จากกรณีที่ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ น้องธันย์ อายุ 14 ปี นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง ซึ่งเดินทางไปเรียนซัมเมอร์คอร์สภาษาอังกฤษ เคมบริดจ์ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 1 เดือน และประสบอุบัติเหตุรถไฟฟ้า MRTทับขาขาดทั้งสองข้างนั้น

ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีกลุ่มชาวสิงคโปร์ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ได้บริจาคเงินเป็นจำนวน 250,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 6.5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฟื้นฟูดูแลสุขภาพ โดยเงินดังกล่าวได้ถูกมอบผ่านสภากาชาดสิงคโปร์ ขณะที่สภากาชาดสิงคโปร์ ได้มอบเงินดังกล่าว ให้แก่สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า ยังมีชาวสิงคโปร์ใจบุญรายหนึ่งยังแสดงความประสงค์จะค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็ม ที่ให้แก่ น้องธัญย์ ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ไม่ยอมจ่ายให้ด้วย ภายหลังทราบข่าวสลดดังกล่าวจาก "Channel news" สื่อท้องถิ่นสิงคโปร์ และได้ติดต่อสื่อแห่งนี้ เพื่อปรึกษาว่า เขาจะสามารถจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวได้อย่างไร

อย่าง ไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บิดาของด.ญ.ณิชชารีย์ ได้ปฎิเสธที่จะรับเงินจ่ายค่าชดเชยมูลค่าเพียง 125,000 บาทจากรัฐบาลสิงคโปร์ และเตรียมหาทนายเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เหมาะสมกว่าจากรัฐบาลสิงคโปร์







[15 มิ.ย.] หัวใจแกร่ง! น้องธันย์ เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์

น้องธันย์ หรือ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ วัย 14 ปี นักเรียนไทยที่เดินทางไปศึกษาด้านภาษาตอนช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ได้เกิดอุบัติเหตุ พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าของสิงคโปร์ เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้น้องธันย์ต้องถูกตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง มาวันนี้น้องธันย์ ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยได้เดินทางมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดในรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามเลยค่ะ

โดยน้องธันย์ ได้กล่าวว่า ตอนนี้เธอกำลังรอขาเทียมจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามมกุฏราชกุมารี ซึ่งทรงมีรับสั่งให้หาขาเทียมที่ดีที่สุดให้กับตน ทั้งนี้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านได้ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็ก และทรงช่วยเหลือประชาชนทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก

น้องธันย์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุวินาทีแรกที่ตนคิดคือ ตนต้องถูกตัดขาอย่างแน่นอน แต่ตนไม่ร้องไห้ฟูมฟาย หรือเสียใจ ตอนนั้นตนตั้งสติ ร้องตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่เลือดท่วมเต็มไปหมด แล้วได้หยิบโทรศัพท์โทรเล่าเหตุการณ์ขณะนั้นกับเพื่อนด้วย เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ตนกังวลอยู่อย่างเดียวคือ จะบอกพ่อกับแม่อย่างไร แล้วจะไปโรงเรียนได้อย่างไรเท่านั้นเอง

สำหรับกำลังใจที่ตนมีตอนนี้ เริ่มขึ้นจากตัวเองเป็นอันดับแรก กำลังใจจากคนอื่น ๆ ก็สำคัญ แต่ถ้าเราไม่สร้างกำลังใจให้กับตนเองให้ลุกขึ้นสู้ กำลังใจไหน ๆ ก็ไม่ช่วยให้เราเดินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสูญเสียขาไป แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งทดแทน นั้นก็คือขาเทียม

ส่วนการรักษาตัวขณะนี้ น้องธันย์ เผยว่า แผลของขาทั้งสองข้างแห้งแล้ว ซึ่งคุณหมอได้ให้ทำกายภาพบำบัด ช่วงแขนและสะโพกให้แข็งแรง ถึงแม้ตนจะได้ขาเทียมที่ดีที่สุดในโลกมา แต่ถ้าตนไม่พยายามฝึกร่างกายตนเองให้แข็งแรง ก็ไม่สามารถเดินได้แน่นอน

พร้อมกันนี้ น้องธันย์ ได้กล่าวปิดท้ายว่า ตนอยากให้ผู้ที่ต้องสูญเสียทุกคน อย่ามองเพียงแต่สิ่งที่สูญเสีย เพราะอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้ว เราแก้ไขไม่ได้ อยากให้มองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า และเชื่อว่าในอนาคตต้องมีสิ่งดี ๆ ซึ่งทำให้เราก้าวเดินไปอย่างมั่นคงและแข็งแรง

ทางด้านคุณพ่อของน้องธันย์ นาย กิตต์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ ได้กล่าวถึงเรื่องคดีความว่า ค่ารักษาตัวและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของน้องธันย์ ทางสิงคโปร์ไม่ได้ยื่นมือมาช่วยแต่อย่างใด เพียงแต่ให้เงินทดแทนมา 120,000 บาทเท่านั้น ทำให้ตนคิดว่าคุณค่าของคน ทำไมมีราคาเพียงน้อยนิดเช่นนี้ ค่าขาเทียมยังไม่พอเลย เพราะว่าขาเทียมต้องเปลี่ยนทุก ๆ 5 ปี อีกทั้งยังน้อยใจทางหน่วยงานของประเทศไทย ที่ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนเลยด้วย



คลิป เจาะข่าวเด่น - น้องธัญย์ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ 1/2


คลิป เจาะข่าวเด่น - น้องธัญย์ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ 2/2



[13 มิถุนายน] น้องธันย์เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ขาขาด กลับไทยวันนี้

น้องธันย์ เหยื่อรถไฟฟ้าที่สิงคโปร์ เตรียมบินกลับบ้านวันนี้ เผยดีใจที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ขณะที่คดีความยังไม่คืบหน้า

จากกรณีที่ ด.ญ.นิจรีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือน้องธันย์ นักเรียนไทยวัย 14 ปี ที่เดินทางไปเรียนภาษาที่ประเทศสิงคโปร์ เกิดอุบัติเหตุพลัดตกรางรถไฟใต้ดิน ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ น้องธันย์ จำเป็นต้องตัดขาทั้งสองข้าง ตั้งแต่หัวเข่าลงไป โดยเข้ารับการรักษาตั้งแต่เดือนเมษายน ที่โรงพยาบาล ตานโต๊กเส็ง ประเทศสิงคโปร์

ล่าสุด วานนี้ (12 มิถุนายน) นายกิจธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ อายุ 55 ปี บิดาของน้องธันย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของน้องธันย์ดีขึ้น บาดแผลที่ขาทั้งสองข้างเริ่มหาย ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนทำกายภาพบำบัด เพื่อเตรียมใส่ขาเทียม อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวเป็นห่วงสภาพจิตใจของน้องธันย์เป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปรับตัวน้องธันย์กลับมารักษาตัวที่ ศูนย์สิรินธร ต่อไป ส่วนความคืบหน้าของคดีดังกล่าว เป็นไปด้วยความล่าช้า และยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย ซึ่งตนก็ได้มอบหมายให้ทนายความต่อสู้คดีต่อไปแล้ว

ด้าน น้องธันย์ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของตนดีขึ้นมากแล้ว สามารถอาบน้ำได้เอง และตอนนี้ก็รอกลับไปใส่ขาเทียมที่ประเทศไทย ซึ่งตนคาดว่า ถ้าได้ใส่ขาเทียม ตนคงจะเดินได้เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม วันนี้ 16 มิถุนายนที่จะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 15 ปีของตน ตนจึงอยากกลับไปอยู่ฉลองวันเกิดกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น