เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อีกหนึ่งตัวอย่าง..คุณตาผู้เข้มแข็ง ไม่ต้องโกหกหรือคดโกงใคร

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube โพสต์โดย ladyEdnaMode และ ทีวีบรูพา

มีคนไม่น้อยที่คิดว่า "เงิน" คือ "ความสุข" ของชีวิต เพราะเชื่อมั่นว่า "เงิน" สามารถบันดาลอำนาจ เกียรติยศได้ทุก ๆ อย่าง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่มี "เงิน" มหาศาล แต่พวกเขากลับมี "ความสุข" มากกว่าคนที่มีเงินเสียอีก และ "ตามี หอมคำรื่น" คือหนึ่งในบุคคลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเพราะพอใจในสิ่งที่ตนเองมี แม้เขาจะเป็นเพียงแค่ชายชราที่ทำหน้าที่เก็บผักขายตามตลาดเท่านั้น

ภาพของชายชราร่างผอมหลังงองุ้มวัยเฉียดเก้าสิบเดินเข็นรถเข็นเก่า ๆ คันหนึ่งไปตามถนน กลายเป็นภาพที่ชินตาของชาวบ้านในหมู่บ้านบางบัวทอง 4 ทุก ๆ เช้า ชายชราที่ผู้คนเรียกว่า "ตามี" จะเข็นรถคู่ใจไปในตลาด แต่ระหว่างทางกลับบ้าน พ่อค้าแม่ค้าในย่านนั้นก็มักจะหยิบยื่นอาหารให้ "ตามี" ติดไม้ติดมือกลับไปทานที่บ้านจนอิ่มท้องเป็นประจำทุกวัน แม้ชายชราจะไม่เคยเอ่ยขอแม้แต่ครั้งเดียว แต่ทุกคนก็รู้สึกเห็นใจและสงสาร "ตามี" จึงแบ่งปันให้ด้วยน้ำใจไมตรี

"ตามี" อาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ กับอีก 4 ชีวิต คือ "ยายสำอางค์ คำหอมรื่น" วัย 76 ปี ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากกว่า 40 ปีที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนเดินไม่ได้มานานกว่า 5 ปีแล้ว "พี่อ้วน" ลูกสาวคนเล็กที่ทำงานเป็นผู้ช่วยเภสัชกรในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และหลานชายตัวเล็ก ๆ อีก 2 คน แม้ว่า "พี่อ้วน" จะเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้รายจ่ายสูงตามจนแทบจะไม่พอใช้สำหรับเลี้ยงดูทั้ง 5 ชีวิต นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ "ตามี" ลุกขึ้นมาช่วยเหลือลูกสาวหาเงินเข้าบ้าน

หลังจากทานอาหารเช้ากับครอบครัวเรียบร้อยแล้ว "พี่อ้วน" ก็ออกไปทำงานตามปกติ และก็ได้เวลาที่ชายชราจะออกไปเก็บผักขายแล้วเช่นกัน แม้ว่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกเดือนจะเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในบ้าน แต่ "ตามี" ก็ไม่ขอนั่งกินนอนกินอยู่กับบ้านให้เวลาเดินผ่านไปเปล่า ๆ เขายังคงออกไปเก็บผักหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวอยู่เป็นประจำทุกวัน โดยให้เหตุผลว่า หากไม่หาเงินเก็บไว้ สักวันมันก็ต้องหมด

"ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนอด หากอดแล้วค่อยมาทำจะไม่ทันกิน ไม่มีทางที่คนเราจะเงินเหลือหรอก" คุณตาบอก

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

แม้ว่าระยะทางที่คุณตาเดินไปเก็บผักจะไม่ใช่ทางไกลมากนัก แต่เส้นทางนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเดินเหินง่าย ๆ เนื่องจากคุณตาจะต้องปีนป่ายข้ามรั้วที่สูงกว่าเมตรไปเก็บผัก ซึ่งหากเป็นคนหนุ่มคนสาวคงปีนป่ายได้ไม่ยาก แต่สำหรับชายวัย 88 ปีที่สังขารเริ่มร่วงโรย เขาจึงพกบันไดส่วนตัวติดรถเข็นไปด้วย เพื่อช่วยให้การปีนป่ายได้สะดวกขึ้น แถมยังต้องลุยน้ำข้ามทุ่ง เพื่อจะได้ผักไปขายที่ตลาดนอกจากนี้ คุณตาก็ยังช่วยปลูกผักเพิ่มให้ เพื่อจะได้มีเก็บมีกินในวันข้างหน้า

ตามี บอกว่า แม้เส้นทางที่เดินมาเก็บผักจะดูลำบาก แต่ตัวเองก็ไม่เคยรู้สึกเหนื่อย ไม่ท้อ ไม่หมดหวัง เพราะเชื่อว่า เทวดาจะช่วยคนทำดี แต่ก่อนจะถึงวันที่เทวดาช่วย เราก็ควรเริ่มต้นช่วยเหลือตัวเองก่อน หากวันใดรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา ก็ต้องบังคับตัวเองไม่ให้ขี้เกียจ ด้วยการใช้ธรรมะเตือนตนเอง และเขาก็ยังจะเดินเก็บผักเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะหากจะให้หยุดก็คงทำไมได้

"คนเราเกิดเป็นคน จะมาหยุดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ นั่นไม่ใช่คน ถ้าเป็นคนต้องทำงาน เกิดมาเพื่อทำงาน อยู่ได้ด้วยงาน" ตามี บอก

เมื่อเข็มสั้นนาฬิกาชี้ที่เลข 11 ก็ได้เวลาที่ "ตามี" เดินทางกลับมาทานข้าวเที่ยงฝีมือยายสำอางค์ที่บ้าน หลังจากออกไปตากแดดร้อน ๆ มาหลายชั่วโมง ก่อนที่คุณตาจะเริ่มทำงานบ้าน ช่วยซักเสื้อผ้าให้คุณยาย ช่วยพาคุณยายเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดให้ทุกอย่าง โดยที่คุณตาไม่ได้ถืออะไร เพราะคิดว่า "เราทำเพื่อเขา เป็นการทำดี ต้องได้ดี"

ความสุขของ ตามี ชายชราผู้ไม่เคยหมดหวังกับชีวิต

ฟากฝั่ง "ยายสำอางค์" คู่ชีวิตของ "ตามี" เองก็ยอมรับว่า เคยกังวลว่า ครอบครัวต้องมาลำบากดูแลคนป่วย และเคยคิดอยากตายไปให้พ้น ๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของใคร แต่สุดท้าย ก็ได้คุณตาช่วยปลอบ ทำให้คลายความกังวลไปได้ ซ้ำยังปลื้มใจในตัวคุณตาเป็นอย่างมาก เพราะคุณตามี "น้ำใจ" และมี "ความดี" ที่ทำให้คุณยายรัก ถึงขนาดที่ว่าตลอด 40 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง

เมื่อเวลาคล้อยบ่ายไปสักพัก ก็ได้เวลาที่คุณตาต้องเข็นรถออกมาขายผักที่ตลาดเย็นใกล้ ๆ บ้าน แม้ว่าจะขายหมดบ้าง ไม่หมดบ้าง แต่คุณตาก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะคิดว่า เงินที่ได้มานี้เป็นเงินที่หามาได้โดยไม่มีต้นทุน ไม่มีคำว่าขาดทุน แม้จะได้เพียงแค่หลักสิบหลักร้อยก็ถือเป็นกำไรล้วน ๆ สำหรับเก็บไว้ใช้ในวันข้างหน้า

ชายชรายอมรับว่า เคย "กลัวความจน" แต่ ณ วันนี้ เขาไม่คิดว่าตัวเอง "จน" อีกต่อไปแล้ว เพราะเขามีเงินสำรองเก็บไว้ใช้ในยามเดือดร้อน และไม่เคยคิดจะขี้เกียจ หรือหยุดทำงาน เพราะเชื่อว่าความขยันจะทำให้คนเราเจริญขึ้น ยิ่งทำก็ยิ่งพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ

"ความสุขของทุก ๆ วันในตอนนี้คือความสบายใจ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยสักแค่ไหน หรือถ้ามีความทุกข์ ก็แก้ทุกข์นั้นให้หายเสีย จะได้ไม่เหนื่อย เมื่อไม่เหนื่อยก็คือความเบา ความสบาย" คุณตามี ทิ้งท้าย

แม้ว่า "ความสุข" ในชีวิตของคนเรา อาจประมาณค่าเป็นตัวเลข เป็นเงินทองไม่ได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่งดงามของจิตใจ และหากเราจินตนาการให้ "ความสุข" เหล่านั้น สามารถแปรเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินได้ "ตามี คำหอมรื่น" ก็คือมหาเศรษฐีแห่งความสุขอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยคนหนึ่งอย่างแน่นอน


คลิป คนค้นฅน ตามี ผู้รวยความสุข 1/3


คลิป คนค้นฅน ตามี ผู้รวยความสุข 2/3


คลิป คนค้นฅน ตามี ผู้รวยความสุข 3/3



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น