จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๒๓
เมืองไทยไปทางไหน?
ช่วงนี้เห็นจะไม่มีเรื่องไหนน่
และเสียงมักไม่ใช่ "เธอจะเลื
ทว่าเป็น "จะเกิดอะไรขึ้นอีกหลั
เมืองไทยเรามาถึงจุดนี้แล้ว คนคิดกันอย่างนี้แล้ว
คำถามที่ประชาชนให้
"แล้วเมืองไทยจะไปทางไหน?"
ไม่เป็นไรครับ เมืองไทยเราดวงแปลก
ทำท่าจะตก ก็ไม่เห็นเคยตกจริงสักที
ต้องมีอะไรมาช่วยช้อนวันยังค่
ถ้าพูดถึงระดับโลก ไม่พูดเฉพาะระดับประเทศ
ผมเชื่อมานานแล้วว่ายุคนี้สื่
ใครครองสื่อหลักได้ คนนั้นมีอำนาจที่สุดในโลก
สื่อหลักในปัจจุบันถูกรับใช้
ขั้วอันดับหนึ่งคือการบันเทิง ขั้วอันดับสองคือการเมือง
ขั้วการบันเทิงทำให้ชีวิ
การทำแท้งและการหย่าร้างมากขึ้น
ปริมาณคนฟุ้งซ่านมากขึ้น
จำนวนคนที่งงกับชีวิตตัวเองทวี
เด็กโตขึ้นมาแล้วไม่รู้
ขั้วการเมืองทำให้ความคิดของสั
คนส่วนใหญ่ไม่ว่าประเทศไหน
ถูกหลอกให้เข้าใจว่าตัวเองเลื
ด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงบางส่
ผสมกับการรับฟังคารมของคนที่
ก่อให้เกิดความรู้สึกต่อต้านหรื
ประกอบกับที่สื่ออินเตอร์เน็ต
เปิดโอกาสให้ "ระบายความในใจ" กันชนิดถึงลูกถึงคน
จำนวนคนก่อวจีทุจริตจึงเพิ่มขึ้
อินเตอร์เน็ตส่วนหนึ่งกลายเป็
ที่ปรับรูปความคิดของผู้คนให้น่
และเห็นกันจนชินตาเป็นเรื่
ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน
คุณจะเห็นร่องรอยอิทธิพลของสื่
ไม่มีใครดีกว่ากันหรือเลวกว่ากั
เราจึงได้ข้อสรุปว่ายุคสื่
ให้ผลเป็นบวกในแง่ที่ทำให้
แต่ก็ให้ผลเป็นลบในแง่ที่ทำให้
ตัวแปรของประเทศเรายังมีอีกตั
ที่ทำให้จิตใจผู้คนอ่อนโยนลงได้
นั่นคือตัวแปรทางศาสนา
นึกถึงศาสนา ก็คือนึกถึงความรู้สึกด้านดี
ผมไม่ได้พูดเจาะจงเฉพาะศาสนาพุ
ไทยเรายังมีคนเคารพศรั
นับว่าโชคดี มีโอกาสทางจิตวิญญาณมากกว่
ที่ปัจจุบันมีการวิเคราะห์วิจั
และเห็นแนวโน้มว่า "คนไม่มี
หมายความว่าประเทศนั้นกำลังเข้
ไม่มีใครหาความชุ่มชื่นจากกิ
เสียดาย... ตัวแปรทางศาสนาในปัจจุบัน
ยังไม่อาจแบ่งพื้นที่มาจากสื่
อย่าว่าแต่จะขยับเลื่อนชั้นขึ้
แข่งกับขั้วบันเทิงและขั้
เอาล่ะ สรุปเสียที เมืองไทยไปทางไหน?
ก็ไปในทิศทางเดียวกับที่
กระแสเชี่ยวกรากของโลกาภิวัตน์
ตราบใดที่สื่อทางศาสนายังไม่มี
ผู้คนก็จะฟุ้งซ่านกันมากขึ้น ชีวิตดูมั่วๆกันมากขึ้น
แต่ละวันเต็มไปด้
ที่กี่วันก็ทำความสะอาดไม่เสร็
อย่าเรียกร้องให้โลกเย็นลงเพื่
ให้คุณเย็นลงเพื่อโลกจะเป็
ดังตฤณ
มิถุนายน ๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น