ยอดฮีโร่ ชายชาวจีนสละชีวิตเพื่อรักษาสาธารณสมบัติ
ยอดฮีโร่ ชายชาวจีนสละชีวิตเพื่อรักษาสาธารณสมบัติ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก travel2abroad.com , china.cn
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในจีนที่เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังจะผ่านพ้นไปในเร็ววันนี้ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นคงไม่อาจลบล้างคราบน้ำตาแห่งความสูญเสียของชาวจีนไปได้ง่าย ๆ เพราะไม่ใช่แค่มันจะทำให้บ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาพังทลายไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้น แต่หลายครอบครัวยังต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันได้คืนมา หลังจากภัยธรรมชาติได้บีบบังคับให้พวกเขาหนีตายกันไปคนละทิศละทาง ไม่มีเวลามากพอสำหรับการตระเตรียมอะไรทั้งนั้น
แต่ในขณะที่หลายชีวิตดิ้นรนเพื่อการรอดชีวิต ใครจะเชื่อว่า ยังมีชายคนหนึ่งที่สละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องสาธารณสมบัติอย่างกล้าหาญ ทั้ง ๆ ที่เขามีเวลาหนีเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้เหลือเฟือ แต่กลับไม่เลือกที่จะทำอย่างนั้น
และชายผู้กล้าหาญคนนี้ คือ นายหวัง เจี้ยนจง ชายวัย 44 ปีจากเมืองต้าเจียน จังหวัดกุ้ยโจว ที่กลายเป็นฮีโร่จากเหตุการณ์น้ำท่วมจีนในครั้งนี้ หลังจากพยายามย้ายคอนกรีตกว่า 30 ตัน สำหรับทำถนนไปไว้ในที่ปลอดภัย ขณะที่เห็นน้ำกำลังไหลทะลักมาอย่างรวดเร็ว และเขาได้พยายามย้ายคอนกรีตเหล่านั้นจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
โดย นายหวง ฟู่เจียง เพื่อนผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่น้ำกำลังไหลทะลักเข้ามาในเมืองในระดับสูง เขาอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการของเมือง และได้ขึ้นไปยืนอยู่ชั้นบนของสำนักงาน ส่วน หวัง เจี้ยนจง นั้นกลับมัวแต่วุ่นอยู่กับการขนย้ายคอนกรีตสำหรับทำถนนมาไว้ในที่ที่ปลอดภัย เขาจึงตะโกนบอก หวัง เจี้ยนจง ว่า ให้ขึ้นมาข้างบนให้เร็วที่สุดเพราะน้ำกำลังมาแรงมากแล้ว แต่ หวัง เจี้ยนจง ก็ไม่สนใจ ยังคงขนย้ายคอนกรีตต่อไปโดยไม่ฟังเสียงของเขาเลยสักนิด จนสุดท้าย หวัง เจี้ยนจง ก็ถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดร่างหายไปต่อหน้าต่อตาเขา ทำให้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก
จากการสละชีวิตเพื่อรักษาคอนกรีตทำถนนดังกล่าว ทำให้ หวัง เจี้ยนจง กลายเป็นฮีโร่ของใครหลาย ๆ คนไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการสละชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อคนเบื้องหลังไม่น้อย เพราะเมื่อเขาเสียชีวิตแล้ว ภรรยาก็ต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงดูลูก ๆ รวมถึงแม่ของเขาด้วย และนั่นหมายความว่า ต่อจากนี้ไปครอบครัวของเขาก็จะไม่มีรายได้เลย และยิ่งไปกว่านั้น ความสูญเสียในครั้งนี้ยังทำให้ครอบครัวของเขาร้องไห้เหมือนกับใจสลาย
โดย หวัง เฟิงฉิน ลูกสาววัย 16 ปีของเขาได้เปิดเผยว่า "ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง พ่อสัญญากับหนูว่าพ่อจะซื้อเสื้อตัวใหม่ให้ แต่ทำไมพ่อถึงมาจากไปอย่างนี้ ตอนที่คุณลุงบอกหนูว่าพ่อของหนูตายแล้ว หนูไม่อยากจะเชื่อ หนูไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เห็นหน้าพ่อในช่วงเวลาสุดท้ายเลย ถ้าหนูทำได้ หนูจะยอมสละทุกอย่างเพื่อแลกกับการกลับมาของพ่อ กลับมาให้หนูได้อยู่ในอ้อมกอดของพ่อต่อไป"
แต่นั่น คงเป็นเสียงของความเสียใจ ที่คนเป็นพ่อผู้เสียสละไม่อาจได้ยินได้อีกต่อไปแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น