กาลิงคโพธิชาดก
กาลิงคโพธิชาดก ว่าด้วย การพยากรณ์ที่อันเป็นชัยภูมิ
ในยามที่พระตถาคตเสด็จหลีกจาริกไปตามชนบทเพื่อประโยชน์จะทรงสงเคราะห์เวไนยสัตว์ ชาวกรุงสาวัตถีต่างถือของหอมและดอกไม้ไปยังพระเชตวันแล้วนำไปวางไว้ที่ประตูพระคันธกุฎีด้วยเความปราโมทย์กันอย่างยิ่ง
ท่านอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีทราบเรื่องที่ชาวเมืองทำเช่นนั้นในช่วงที่พระตถาคตไม่ประทับอยู่ที่พระเชตวันแล้ว จึงไปยังสำนักพระอานนทเถระแล้วกล่าวว่า "ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อพระตถาคตเสด็จหลีกจาริกไป พระวิหารนี้ไม่มีปัจจัย มนุษย์ทั้งหลายไม่มีสถานที่บูชา ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ขอโอกาสเถิดท่านเจ้าข้า ขอท่านจงกราบทูลความเรื่องนี้แด่พระตถาคต เพื่อทรงให้ที่ที่ควรบูชาสักแห่งหนึ่ง"
พระอานนทเถระรับว่า "ดีละ" จากนั้นท่านได้ทูลถามพระตถาคตว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เจดีย์มีกี่อย่าง"
พระศาสดาตรัสตอบว่า "มีสามอย่าง อานนท์"
พระอานนทเถระทูลถามว่า "สามอย่างอะไรบ้าง พระเจ้าข้า"
พระศาสดาตรัสว่า "ธาตุเจดีย์ ๑ ปริโภคเจดีย์ ๑ อุทเทสิกเจดีย์ ๑"
พระอานนทเถระทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระองค์เสด็จจาริกไป ข้าพระองค์จะกระทำเจดีย์ได้หรือไม่"
พระศาสดาตรัสว่า "อานนท์ สำหรับธาตุเจดีย์ไม่อาจทำได้ เพราะธาตุเจดีย์นั้นจะมีได้ในกาลที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว สำหรับอุทเทสิกเจดีย์ ก็ไม่มีวัตถุปรากฏเป็นเพียงเนื่องด้วยตถาคตเท่านั้น ต้นมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าอาศัยเป็นที่ตรัสรู้ ถึงพระพุทธเจ้าจะยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม ปรินิพพานแล้วก็ตาม เป็นเจดีย์ได้เหมือนกัน"
พระอานนท์ทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระองค์เสด็จหลีกไป พระมหาวิหารเชตวันหมดที่พึ่งอาศัย มนุษย์ทั้งหลายไม่มีสถานที่เป็นที่บูชา ข้าพระองค์จักนำเมล็ดพันธุ์จากต้นมหาโพธิมาปลูกที่ประตูพระเชตวัน พระเจ้าข้า"
พระศาสดาตรัสว่า "ดีแล้ว อานนท์ เธอจงปลูกเถิด เมื่อเป็นเช่นนั้น ในพระเชตวันก็จักเป็นดังตถาคตอยู่เป็นนิตย์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น