กัมพูชา อ้าง 3 สายลับที่โดนไทยจับแค่ชาวบ้าน

กัมพูชา อ้าง 3 สายลับที่โดนไทยจับแค่ชาวบ้าน

เขมรอ้าง 3คนไทยจับแค่ชาวบ้านหาของป่า (ไอเอ็นเอ็น)

กระทรวงต่างประเทศกัมพูชา มามุขใหม่ บอกสายลับที่ไทยจับได้ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา เข้าไปหาของป่า เตรียมส่งเจ้าหน้าที่กงสุลให้การช่วยเหลือ แต่ดันหลุดปาก มีหน่วยงานจารกรรมสืบข่าวจริง ด้าน กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ แนะให้นำสายลับกัมพูชา แลกตัว "วีระ" และ "ราตรี"

เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ยืนยันว่า ได้ส่งกงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทย ไปให้การช่วยเหลือชาวเขมร ที่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัว ในข้อหาสายลับแล้ว ซึ่งหลังจากเข้าไปให้การช่วยเหลือ ทราบว่า ชาวเขมรคนดังกล่าว เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ที่เข้าไปเที่ยวและหางานทำในประเทศไทยเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการจารกรรมที่เข้าไปสืบข่าวให้ฝ่ายกัมพูชา ตามที่เจ้าหน้าที่ไทยตั้งข้อกล่าวหา

ขณะที่ นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างเรื่องของเจ้าหน้าที่ไทย และนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้กับสาธารณะ และกล่าวหากัมพูชาโดยผิดจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เพื่อหาข้ออ้างรุกรานกัมพูชา

เช่นเดียวกับ นายไพ ซีพาน โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยว่า กัมพูชาไม่ได้ส่งตัวแทนไปสืบข่าวจากไทยแต่อย่างใด และงานจารกรรมไม่ใช่หน้าที่ของชาวบ้านธรรมดา เป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง เป็นการตั้งข้อกล่าวหา เพื่อเตรียมแผนการโจมตีกัมพูชาเท่านั้น พร้อมกับปฏิเสธว่าทางการเขมร ไม่ได้ส่งกงสุลเข้าไปให้การช่วยเหลือ เพื่อขอตัวชาวกัมพูชากลับประเทศ เป็นการกล่าวอ้างของไทยเท่านั้น

นายวีระ สมความคิด

ทางด้าน ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ เพื่อขอทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการจับกุม 3 สายลับชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม

โดย ม.ล.วัลย์วิภา กล่าวว่า จากการที่ตนได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า พยานหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า ทั้ง 3 คน เข้ามาสอดแนมหาข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งทางทหารไทยตามแนวชายแดน ซึ่งตนเห็นว่า รัฐบาลไทยควรที่จะใช้ประเด็นนี้ในการนำเอาไปใช้ประโยชน์ให้เกิดขึ้นประเทศไทย โดยควรนำเรื่องนี้เสนอเข้าไปให้คณะกรรมการมรดกโลก และศาลโลก ได้รับทราบเพื่อประกอบการพิจารณากรณีปราสาทพระวิหารด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรนำกรณีข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนปี 2541 มาใช้ เนื่องจากว่า ผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 3 คน มีสิทธิตามหลักมนุษยธรรมที่จะสามารถเรียกร้องขอความเป็นธรรมได้จากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรให้มีการแลกเปลี่ยนผู้ต้องหาระหว่างสายลับกัมพูชา-เวียดนาม กับ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศกัมพูชา ในขณะนี้ด้วย



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์