เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เผยหัวหน้าสายลับเขมร-เวียดนาม เป็นทหารระดับพันเอก

เผยหัวหน้าสายลับเขมร-เวียดนาม เป็นทหารระดับพันเอก




สายลับเขมร


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

ออกหมายจับหัวหน้าสายลับเขมรแล้ว เผยเป็นคนสัญชาติเวียดนาม ยศระดับพันเอก ออกสำรวจพิกัดของที่ตั้งทหาร และบังเกอร์หลบภัยของประชาชน

วานนี้ (15 มิถุนายน) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงถึงการจับกุมสายลับกัมพูชา ซึ่งประกอบไปด้วย นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาอิสลาม, นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ และนายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เชื้อสายเวียดนาม ศาสนาพุทธ ขณะที่ทั้งสามคนได้ลักลอบเข้ามาหาพิกัดที่ตั้งทหารไทย ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ. กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ

นายชวนนท์ กล่าวว่า ขณะนี้หลักฐานต่าง ๆ เกือบจะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงแต่รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจสอบให้ครบถ้วนและถูกต้อง ล่าสุด ทั้งสามผู้ต้องหาได้ให้การเพิ่มเติมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะรูปพรรณสันฐานของผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีอยู่ รวมถึงได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานของนายอึ้ง กิมไทย และนายเหวียง เติ้งยัง ซึ่งพบว่า ข้อมูลในพาสปอร์ตของทั้งสองคน มีตราประทับการเข้า-ออกในประเทศไทยและประเทศเวียดนามหลายครั้ง

และจากการสอบสวน นายสุชาติ มูฮำหมัด ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับรถกระบะพาผู้ต้องหาอีก 2 คน และผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีก 3 คน ตรวจสอบหาพิกัดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นที่ตั้งทหารและบังเกอร์หลุมหลบภัยของชาวบ้านทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-เขมร โดยมีนายวิชัย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้เป็นหัวหน้าคณะ และคอยล็อกพิกัดต่าง ๆ ส่วนตนเป็นเพียงผู้รับข้างขับรถเท่านั้น ซึ่งได้ค่าจ้างเพียง 5,000 บาท

ทางด้าน พ.ต.อ.สมพจน์ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมด ขณะนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบแล้ว และขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับ นายวิชัย หรือนายจา เปา หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า chea pov ชาวเวียดนาม อายุ 48ปี โดยประวัติของนายจาเปา นั้น ได้ประกอบอาชีพเป็น ทหารยศพันเอก และประกอบธุรกิจส่วนตัวที่กัมพูชา

พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.สมพจน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ดำเนินการตามพยานหลักฐาน ซึ่งผู้ต้องหาดดังกล่าวจะได้รับสิทธิต่าง ๆ ทั้งการพบทนายความ และสิทธิในการเยี่ยมของญาติโดยไม่มีการกีดกั้นแต่อย่างใด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น