เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

ข้อคิดชีวิตพรหมจรรย์


พระ มหากำธร อุดมสิน: ข้อคิดชีวิตพรหมจรรย์

บันทึกของพระ มหากำธร|บันทึกเกี่ยวกับพระ มหากำธร|ข้อมูลส่วนตัวของพระ มหากำธร
ข้อคิดชีวิตพรหมจรรย์แบ่งปัน
วันนี้ เวลา 4:25
ข้อคิดชีวิตพรหมจรรย์

ลักษณะของ ชีวิตพรหมจรรย์นั้น จะต้องเป็นชีวิตที่จืด จืดจากรสทั้งปวง

ไม่ได้ หมายความว่าการประพฤติ พรหมจรรย์เป็นชีวิตที่จืดชืด ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นชีวิตที่มีรสอย่างยิ่ง

การประพฤติพรหมจรรย์เป็นชีวิตอย่างเอมโอชไม่สามารถจะพรรณนาได้ แต่ในทางข้างนอก นั้น

จะมีชีวิตพรหมจรรย์ได้ก็ต้อง ฝึกให้มีชีวิตที่จืดจากรสทั้งปวง รสอะไรบ้างก็รสของกามคุณ๕

รสของการติดในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จืดจากรสของกาม กามารมณ์ ที่เคยหลงเคยเห็นว่า นำความชื่นบานนำความสุขมาสู่ชีวิต

จืดจากสิ่งยั่วยุทั้งปวง จืดจากตัณหา จืดจากอุปาทาน เพราะจิตนั้น อวิชชาเข้าครอบงำไม่ได้เสียแล้ว

เพราะฉะนั้นชีวิตพรหมจรรย์ จึงต้องเป็นชีวิตที่จืด ถ้าหากว่าผู้ใดมีความรู้สึกว่า

ในขณะใด ชีวิตชักจะออกรสแล้วนะ ที่ว่าออกรสน่ะ มันเป็นรสข้างนอก คือ ติดรสข้างนอก

รสของรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส รสของกาม กามารมณ์ต้องรีบเร่งรัดชำระจิตใจใหม่ทันที ด้วยปัญญาอย่างพร้อมมูล

นั่นก็ คือ ต้องปฏิบัติตามรูป แบบของ อานาปานสติภาวนา ให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น

***

นอกจากนั้น ลักษณะของ ชีวิตพรหมจรรย์จะต้องเป็น ชีวิต ของความไม่มี คือ ไม่มีอย่างแท้จริง

ไม่ใช่ไม่มีอย่างหลอกๆ ไม่มีจริงๆ คือ ไม่มีทรัพย์สมบัติไม่มีสิ่งของ ไม่มีอะไรๆ ที่เป็นของเราไม่มีจริงๆ

ถึงแม้ว่าจะมีอยู่โดยสมมุติ แต่ภายในนั้น ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของตน สิ่งของของตน เพราะไม่มีตนที่จะยึด

คือ ฝึกการไม่มีตนที่จะยึด อย่างนี้ จึงเรียกว่าเป็นชีวิตของความไม่มีที่แท้จริง ไม่ใช่ไม่มีแต่เพียงหลอกๆ

นอกจากนั้นลักษณะของ ชีวิตพรหมจรรย์จะต้องเป็น ชีวิตที่อยู่เหนือโลกสมมุติ อย่างสิ้นเชิง

สิ่งใดที่สมมุติกันว่าดี ว่าชั่ว ว่าได้ ว่าเสีย ว่ากำไร ว่าขาดทุน ว่าสะอาด ว่าสกปรก คือ เป็นสิ่งคู่

โดย เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ อยู่เหนือการติดในสิ่งคู่ เพราะว่าสิ่งคู่นั้น คือ สิ่งสมมุติ

รู้จักสมมุติสัจจะ รู้จักปรมัตถสัจจะ อย่างชัดเจน ไม่หลงติดในสิ่งที่เป็นสมมุติสัจจะโดยประการทั้งปวง

เรารู้แล้วว่า มันไม่มี มันเป็นเพียงมายาที่เกิดขึ้นตามสมมุติ จึงไม่เอาจริงเอาจัง ไม่ไปยึดมั่น ถือมั่นในมัน

ทั้งนี้ก็เพราะว่าเป็น ชีวิตที่ได้เข้าถึง และ ประจักษ์แจ้งในสัจธรรม ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงสอนและอบรม

โดย อุบาสิกาคุณรัญจวน อินทรกำแหง
ขอบคุณข้อมูลและรูปนะครับจาก www.larnbuddhism.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น