เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

สูญเสีย (ไม่) เสียศูนย์


โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ
สูญเสีย (ไม่) เสียศูนย์



Aims Astro


ถาม – ดิฉันกำลังอยู่ในช่วงเจอวิกฤตชีวิต เพิ่งพบว่าสามีที่แสนดีไปซ่อนภรรยาน้อยไว้ อยากจะได้กำลังใจและอยากทราบว่าคนอื่นที่เขาผ่านปัญหามาได้ยังไงค่ะ


สิ่งใดเล่าที่จะสร้างทุกข์แก่ลูกผู้หญิงที่มีคู่ได้เท่ากับปัญหาสามีมีคนอื่น (ยกเว้นเขาตายจากไป ซึ่งเท่าที่คุยกับลูกค้าหญิงก็ได้ข้อมูลว่าหลายๆ คนรู้สึกตรงกันว่าระหว่างเขาตายกับเขามีคนอื่น อย่างหลังทรมานกว่ามาก - -!) ว่าก็ว่าเถอะนะคะยิ่งเห็นโลกมากขึ้นก็ยิ่งพบว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนสัจธรรมให้กับพวกเราจริงๆ หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักคือหลักไตรลักษณ์ อันเป็นสามัญลักษณะของสรรพสิ่งในโลก ที่มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป เหมือนทุกชีวิตที่มีการเกิดแล้วก็แก่ แล้วเจ็บป่วย แล้วก็ตาย ชีวิตรักก็เช่นกันค่ะ เมื่อเลือกที่จะสร้างความรักขึ้น ก็ต้องยอมรับการแปรปรวนไป จนถึงการสิ้นสุดความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตายก็ตาม เรียกว่าตั้งแต่เริ่มเกิดความรักขึ้นก็คือการนับถอยหลังสู่การจากลาแล้วละค่ะ


ทีนี้มาพูดถึงทุกข์เพราะการจากเป็นและการยังตัดไม่ตายขายไม่ขาดแต่แปรปรวนไปกันดีกว่านะคะ เท่าที่ได้รับข้อมูลมาพบว่ากับดักหนึ่งที่ทำให้คนเจ็บจนเจียนตายเพราะไม่ทันระวังตัวก็คือ ความคิดที่ว่า “คนรักของเราเขาเป็นคนดี” ทั้งๆ ที่จริงแล้ว “เขาเป็นปุถุชน ที่ยังแปรปรวนไปมาระหว่างความดีและความชั่วได้” วันนี้เขาเป็นคนดี มีศีลห้าบริบูรณ์ แต่เขาผู้เป็นคนธรรมดาก็มีโอกาสที่จะหันกลับไปผิดศีลอยู่ ฉะนั้นการมีความรักกับใครสักคน ก็ควรเผื่อใจไว้เจ็บบ้าง หากว่าเคราะห์หามยามร้ายเข้ามาจริงๆ จะได้ไม่ทุกข์จนเกินพิกัด ไปจนถึงขนาดตายเพราะรักค่ะ (ลูกค้าบางรายเคยกินยาตายเพราะเจ็บช้ำน้ำใจที่คู่ครองไปมีคนอื่น ยังดีที่รอดมาได้ ซึ่งไม่ได้โชคดีแบบนี้กันทุกคนค่ะ)





"คนเราถ้าไม่เข้าที่มืดถึงที่สุด ก็จะไม่ดิ้นรนหาความสว่าง
เมื่อออกที่สว่างได้ถาวร ก็จะหันกลับไปขอบคุณความมืดชั่วคราวที่ช่วยผลักดันให้"

ดังตฤณ




ว่าไปแล้วการมีทุกข์เสียบ้างก็นับว่ามีประโยชน์อยู่เหมือนกันค่ะ เพราะทำให้ไม่ประมาท ไม่เผลอเพลินไปในความสุข และลูกค้าหลายๆ ท่านบอกตรงกันหมดว่าความทุกข์นี่แหละค่ะที่ทำให้เริ่มสนใจธรรมะ บางคนบอกว่าสมัยก่อนมีหนังสือธรรมะวางอยู่ตรงหน้ายังไม่อ่านเลย แต่ว่าหลังจากที่พบความทุกข์ ตอนนี้วิ่งหามาอ่านเองแล้ว (^__^) ในรอบปีที่ผ่านมาก็ได้สนทนากับลูกค้าหญิงที่มีปัญหาหลายๆ ท่าน แต่ว่ามีท่านหนึ่งที่พูดไว้อย่างน่าฟังมาก จนอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวให้กับผู้อ่านเพื่อเป็นกำลังใจในยามที่ชีวิตพบพานกับปัญหานะคะ


ขอสมมุตินามของเธอผู้เป็นเจ้าของเรื่องว่าคุณไดม่อน ตามดวงแล้วจะมีชีวิตคู่ที่มีความมั่นคงสูงมาก การหย่าร้างนั้นเกิดขึ้นยาก แต่ว่าในเส้นทางของการครองคู่อันแสนสุขกว่าสิบปีนั้น ในที่สุดด้วยวิบากกรรมก็ผลักดันให้สามีของคุณไดม่อนไปมีผู้หญิงอื่น (เหตุที่ต้องใช้คำว่า “ผลักดัน” ก็เพราะว่าการเลือกที่จะมีภรรยาน้อยหรือไม่ อยู่ที่ความเข้มแข็งทางศีลธรรมของแต่ละคนนะคะ ไม่มีหรอกค่ะที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามดวงทั้งหมด เพียงแต่ว่ามนุษย์ที่ต้องใช้ชีวิตตามดวงนั้น ก็เพราะไม่ยอมเลือกข้างความถูกต้อง แต่เลือกที่จะไหลไปตามกิเลส ให้มันฉุดกระชากลากถูไปลงอบาย)


หัวอกของภรรยาและแม่ของลูกที่จงรักภักดีต่อสามี ทำงานนอกบ้านและเฝ้าดูแลครอบครัวมาเป็นอย่างดี พร้อมกับความเชื่อใจสามีเสมอมาว่าเขาเป็นคนดี เป็นที่พึ่งที่ฝากหัวใจทั้งดวงไว้ได้มาตลอดชีวิตสมรสนั้น การแปรเปลี่ยนไปของหัวหน้าครอบครัวในครั้งนี้สร้างความเศร้าโศกแก่เธออย่างใหญ่หลวง คุณไดม่อนบอกว่า “เราเหมือนกบในกะลาตัวหนึ่ง ที่เคยคิดว่ากะลาแคบๆ ใบนี้คือความสุขทั้งหมดของชีวิต แล้วกบในกะลาตัวนี้อยู่ดีๆ ก็โดนใครสักคนทุบกะลาที่มันคิดว่าเป็นโลกทั้งใบจนแตก เมื่อก่อนสามีเราเป็นคนดี ถ้าเขาเคยเลวเคยเจ้าชู้มาก่อน เราคงไม่เจ็บเท่านี้” หมอดูฟังเธอพูดแล้วก็พยายามจดและจำ เพราะเปรียบเทียบได้เห็นภาพจริงๆ นะคะ


หลังจากที่พบความแปรปรวนของชีวิตคู่ คุณไดม่อนก็เข้ามาสู่การปฏิบัติธรรมเพื่อคลายทุกข์ นับว่าเลือกเดินทางถูกแล้วค่ะ เคยเห็นอยู่บ่อยๆ เลยว่าคนอกหักบางคนเลือกทางเดินผิด ประชดชีวิตด้วยการมีผู้ชายอื่น หรือออกเที่ยวสำมะเลเทเมา หรือเข้าหาไสยศาสตร์ที่ยิ่งทำให้จิตใจอ่อนแอ ชีวิตแย่ลง นับจากวันที่มรสุมชีวิตโหมกระหน่ำเพราะสามีผู้เป็นที่พึ่งที่เธอคิดว่าเหมือนโลกทั้งใบได้เปลี่ยนไป จนมาถึงวันนี้คุณไดม่อนได้พบที่ที่ตนเองจะฝากใจไว้อย่างแท้จริงแล้วคือ “ธรรมะ” เธอพูดไว้น่าฟัง มีใจความดังต่อไปนี้ค่ะ “กะลาของเราแตก กบตัวนี้ก็ตื่น จากที่คิดว่าเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นชีวิต ก็ได้รู้ว่าสามีเราก็แค่กะลาใบหนึ่งเหมือนกับกะลาทั่วๆ ไปของกบตัวหนึ่ง ที่เราเคยคิดว่ามันคือโลกทั้งใบ”


ตรวจดวงแล้วดีใจที่ลูกค้าเข้มแข็งและคิดได้ขนาดนี้ เพราะตามดวงแล้วเธอเป็นคนยึดมั่นถือมั่นเรื่องครอบครัวและรักสามีมาก การที่จะผ่านความขมเข้มอันขื่นเข็ญของชีวิตสมรสเช่นนี้ได้ ต้องอาศัยความพยายามอย่างมหาศาลแน่เชียวค่ะ คุณไดม่อนบอกว่าไม่เคยคิดทำร้ายสามีเลยไม่ว่าจะทางจิตใจหรือร่างกายเพราะ “ถ้าติดคุกติดตะรางภายในชาตินี้ก็คงจะมีวันได้ออก แต่จิตวิญญาณจะต้องผูกติดกันไปอีกกี่ชาติกี่ภพก็ไม่รู้” หมายความว่าเธอไม่ต้องการจะผูกเวรกับเขาอีกแล้วไม่ว่ากรณีใดๆ และพยายามอโหสิให้ได้ทั้งหมดค่ะ เหตุผลที่ทำให้จิตใจของคุณไดม่อนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นขนาดนี้ก็เพราะได้พบกับธรรมะของพระพุทธเจ้า


หวังว่าเรื่องราวของคุณไดม่อนจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในภาวะเสียศูนย์เพราะการสูญเสีย เชื่อเถิดค่ะว่าเราจะมีโอกาสเรียนรู้และใช้โอกาสทองในการเป็นมนุษย์ที่พบพระพุทธศาสนาได้แตกต่างอย่างชัดเจนกว่าจริงๆ ก็ในยามที่ชีวิตมีความทุกข์นี่แหละค่ะ





"ทุกข์กับความเพียรเท่านั้นที่มีค่ามากในโลกนี้ หากไม่มีทุกข์กับความเพียรเสียแล้ว
ใครๆ ในโลกนี้ จะไม่ทำความดีเพื่อพ้นทุกข์ในโลกนี้และโลกหน้า ตลอดถึงพระนิพพาน"

พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี )




ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก การได้พบกับสิ่งที่ไม่รัก ตลอดจนการประสบกับความแปรปรวนของสิ่งต่างๆ ในโลก ย่อมไม่มีใครปรารถนา ทว่าเรื่องนี้กลับเป็นคติสอนใจที่ดีค่ะว่าตราบใดที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ตราบนั้นย่อมจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงไปไม่ได้ ฉะนั้นวันใดที่ทุกข์หนัก ขอให้นึกไว้เถิดนะคะ ว่านี่แหละชีวิตในสังสารวัฏที่ไม่มีความสุขเที่ยงแท้คงทนให้เรา ยิ่งทุกข์เท่าไหร่ก็ยิ่งจะต้องบอกตัวเองว่าเกิดอีกก็ทุกข์อีกแบบนี้ ฉะนั้นควรจะใช้ทุกข์เป็นแรงบันดาลใจให้เรียนรู้ความจริงของกายใจ ตราบจนถึงวันที่ไม่ต้องอยู่ในวงจรของการเวียนเกิดตายอีกนะคะ (^/\^)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น