เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าดีๆ " จากญี่ปุ่น" ในวันแผ่นดินไหว



เรื่องเล่าดีๆ " จากญี่ปุ่น" ในวันแผ่นดินไหว
ผมได้อ่านข้อความจากเพื่อนคนหนึงที่ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น
เป็นข้อความที่นักเรียนไทยแปลมาจาก
ข้อความของ ชาวญี่ปุ่นหนึ่ง
หลายคนคงได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นในยามที่เขาประสพภัยมา
บ้างแล้ว นี้คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมได้อ่านแล้วก็น้ำตาซึมอย่างไม่รู้ตัว
ก่อนอ่านทำความเข้าใจก่อนนะ
ครับว่า "ข้าพเจ้า"
คือคนญี่ปุ่นที่เป็นคนเขียนเรื่องนี้ขึ้นในสิ่งที่เค้าพบเจอ
เรื่องแรก ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟว่า "ขอบคุณค่ะ/ครับ
ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุด
ชีวิตทำให้รถไฟเดินรถอีกครั้ง" พนักงานรถไฟได้ฟังแล้วร้องไห้
ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (
เพราะคืนวันที่เกิดแผ่นดินไหว
รถไฟหยุดวิ่งกว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว หลายคนไม่ได้กลับบ้าน
หลายคนต้องเดินกลับ)
เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติด
ไม่สามารถกลับบ้านได้จำนวนมากและทางร้านขายของได้เอาขนมใส
แจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนักเรียนม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก
มากเกินพอ แว่บแรก
ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ “อะไรวะ เอาซะเยอะเลย”
แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะ
เด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆที่พ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องดูแลลูกๆ
เรื่องที่สาม ในซุปเปอร์แห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว
แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกัน
เก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน และ
ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ มีคนที่ตก
ค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับก็ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง
คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉิน
เช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ
เรื่องที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง
ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ
ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว
ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้าน
หนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว
แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน แม้ภาวะ
ฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจเช่นนี้ทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน
เรื่องที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้
ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บหนาว
โฮมเลส (คนจรจัด) ก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้
โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้
สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
เรื่องที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ)
ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน
ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่งตาก็ไปสะดุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า "
เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ" หญิงสาวท่าน
หนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้
วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้นน้ำตามันก็ไหล
ออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น
เรื่องที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด
น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมา
ไหล
เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับ
มาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง
ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะ
ไหลน้าา ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่

เรื่องที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า
ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า
เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง
ต่อจากนี้ไปเมื่อผมเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้
มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!)

เรื่องที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ
หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42ชั่วโมง คุณลุงก็
ได้กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์สึนามิที่ชิลีมาแล้ว
ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วย
ฟื้นฟูบ้านเมืองกันนะ" แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ
ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่าง
หาก)

เรื่องสุดท้าย ก่อนหน้านี้เมืองมันสว่างเกินไป
เกินที่จะมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่จริงๆ
แล้วดาวสวยเช่นนี้เอง ชาวเซนไดทุกคนลองแหงนมองขึ้นไปข้างบนดูซิ
(ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าแปลว่า ชาว
เซนไดทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า รึเปล่า)

ขอบคุณ คุณ ฉั่ว Kyoto ในการแปลข้อความพวกนี้เป็นภาษาไทย
ให้พวกเราทุกคนได้อ่านกัน

ขอบคุณเพื่อนผมที่อยู่ที่นั้น และฝากข้อความมาให้อ่าน
และเค้าบอกว่าที่นั้นสบายดี กลายเป็นว่าแทนทีผม
จะให้กำลังใจเพื่อนฝ่ายเดียว แต่เค้าได้ให้กำลังใจผมกลับมาจนเต็มหัวใจ

สุดท้าย “คนไทยในยามวิกฤต ช่วงน้ำท่วมหรือสึนามิ
เราก็เคยได้เห็นน้ำใจคนไทยแบบนี้เช่นกัน”
: ชีวิตยิ้มๆ 15 มี.ค. 54 23:09:00

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น