บทความ
เราเป็นเจ้าของได้ คือ เรื่องราวของเราเอง
ธรรมชาติชีวิตของมนุษย์มีความเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ทุกคนมีฝัน ฝันที่บินหาความสำเร็จ หรือความอิสระด้านจิตใจ คนหนุ่มสาวที่มีความคิดฝันเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีอิสรเสรี กล้าคิด กล้าทำแบบนอกกรอบ เพราะมองเห็นแนวทางที่คนอื่นไม่มอง จึงสร้างทางที่ไม่ปิดกั้นตัวเอง
ถ้าจะถามว่าแต่ละคนมีการเดินทางหรือเป้าหมายชีวิต คืออะไร คำตอบก็ออกจะมากมาย ด้วยว่าแต่ละคนมีประสบการณ์แตกต่างกัน หากลองให้เลือกตัวแปรเพียงสองอย่างระหว่างการเดินทางกับการถูกหล่อหลอมทางสังคมจนกลายเป็นผู้ลิขิตชีวิต ด้วยตนเองในวันนี้อย่างไหนจึงเป็นชีวิตที่กล้าแกร่ง
ผมเดินทางพบเจอคนมากมายระหว่างทาง มีทั้งคนที่ให้ทีพักพิง สอนให้รู้คุณค่าของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เต็มไปด้วยหัวใจที่เอิบอิ่มลึกซึ้ง ใจก็กว้าง มองทะลุทุกอย่างแบบเป็นองค์รวม ลุงพรพูดกับผมในวันที่ชีวิตแก่โรยร่วงมาในวัย 70 อายุเพิ่มหนึ่งวัน ชีวิตเสื่อมลงหนึ่งวัน ความเจ็บปวดกับการเปลี่ยนแปลงของสังขาร สำหรับการครองตนให้อยู่เป็นสุขในโลกที่ไม่มีอะไรหลีกหนีความเสื่อมพ้นได้
สำนวนที่บ่งบอกข้างต้น บอกถึงความเป็นเปลี่ยนของชีวิตที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ลุงพรเคยเล่าเปรียบเปรยชีวิตก็เหมือนไก่แจ้สองตัวที่ไม่ประมาณตน ทะเลาะกันเพราะปากท้องหรือเพื่อศักดิ์ศรีก็ตาม สุดท้ายวันเวลาก็กลืนกินทุกสิ่งไปไม่เหลืออะไร
ไก่แจ้ 2 ตัวตีกันอยู่ครู่ใหญ่ ตัวที่แพ้ก็หลบเข้าเล้าไปส่วนตัวที่ชนะ ก็ดีอกดีใจยืดอกยกไหล่วางท่าสง่างามด้วยความลำพองใจพร้อมกับบินขึ้นไป อยู่บนหลังคาบ้านด้วยความภาคภูมิใจว่าข้านี่แหละคือ ผู้ชนะ
ระหว่างนั้นเองก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินเฉี่ยวโฉบเอาไก่แจ้ผู้ชนะไปเป็นอาหารอันโอชะเสีย
เรื่องไก่แจ้ผู้ชนะนี้สอนใจคนเราได้เป็นอย่างดี เวลาที่เราประสบความสำเร็จอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็อย่างได้คุยโม้โอ้อวดนักเลยเดี๋ยวคนอื่นเขาจะหมั่นไส้ ก็จะโดนโฉบเอาไปกินเหมือนไก่แจ้ตัวนั้น
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ ไก่เหมือนเรา เหยี่ยวเหมือนกาลเวลาที่กลืนกินเรา ในโลกของความเป็นจริง คนที่ประสบความสำเร็จ มักจะถูกจ้องมองจากดวงตาของหลายๆ คู่ เราควรจะอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้จึงจะอยู่ได้นาน มีเพื่อนให้มาก มีศัตรูน้อย
แต่หากเราทำตรงกันข้ามเย่อหยิ่งจองหอง ก็พร้อมที่จะมีคนเขาหมั่นไส้คอยจ้องทำลายให้เราได้พบกับเคราะห์กรรมได้ง่าย เช่น เดียวกันมีภาษิตจีนกล่าวว่า “ถอยหนึ่งก้าวฟ้าใสทะเลเจิดจ้า”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น