ท่านรู้ว่าไม่แต่งงานเดี๋ยวจะพาลมิให้มาเกิด
เกิดมาทำไมไม่หาสุขอันล้ำเลิศ
เกิดมาอย่าเสียชาติเกิด
แต่งงานเถิด คุณหนุ่มคุณสาว
เมื่อประมาณสามสิบสี่สิบปีก่อนเสียงเพลง "เป็นโสดทำไม" ของสุรพล สมบัติเจริญ
โด่งดังและเป็นเพลงที่ชาวบ้านร้องกันได้จนติดปาก
สมัยก่อนนั้นค่านิยมของสังคมบ้านเราไม่ว่าแห่งหนตำบลไหน
ต้องการให้คนหนุ่ม-สาว ในหมู่บ้านมีเหย้ามีเรือนเมื่อถึงวัยอันเหมาะสม
บ้านไหนถ้าลูกหลานถึงวัยที่สมควรจะมีครอบครัวแล้วยังไม่มีคู่อยู่เป็นโสด
ผู้ใหญ่ก็พยายามจะจัดการเลือกคู่ให้ เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านนินทากันว่า
หนุ่มหรือสาวบ้านนี้หาคู่ครองไม่ได้ ไม่เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที
นี่คงเป็นวัฒนธรรมที่ใช้ได้ในสมัยก่อนนั้น เนื่องจากครอบครัวชาวไทย
มักจะมีผู้ชายเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว ทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือประกอบกิจทำมาค้าขายเป็นหลัก
ส่วนผู้หญิงก็มักจะเป็นแม่บ้านแม่เรืิอนดูแลปรนนิบัติผู้เป็นสามีอยู่กับบ้านกับเรือน
ไม่มีและไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์เจาะลึกกันมากในการเลือกคู่ครอง
ขอเพียงถูกตาต้องใจกันเท่านั้น ก็สามารถร่วมหัวจมท้ายกันได้ตลอดไป
กาลเวลาผ่านไป วัฒนธรรมในเรื่องการมีครอบครัวของคนในปัจจุบันก็เปลี่ยนไป
จะเห็นได้ว่าผู้หญิงในยุคใหม่นี้ ไม่ได้รอเป็นแม่บ้านอย่างเดียวเหมือนเดิม
หลายคนและเป็นจำนวนมากต้องออกทำงานเช่นเดียวกับที่ผู้ชายทำ
เรียกแบบฝรั่งๆก็ว่าเป็น Working Women
ผู้หญิงบางคนก็มีตำแหน่งใหญ่โตสามารถบังคับบัญชาลูกน้องที่เป็นผู้ชายได้
คงเป็นด้วยเหตุผลนี้อย่างหนึ่งจึงมักจะเห็นว่าผู้หญิงในปัจจุบันอยู่เป็นโสด
ไม่มีครอบครัว เพราะผู้หญิงสมัยนี้ไม่ได้มีเวลาว่างๆอยู่กับบ้านทำกับข้าว
รีดผ้า ซักผ้า ถูบ้าน เพียงอย่างเดียวเหมือนเดิมแล้ว
บางคนใช้เวลาในแต่ละวันอยู่กับที่ทำงาน
จนลืมไปเลยว่าตัวเธอเองอายุอานามปาเข้าไปเท่าไรแล้ว
มีคนพูดเปรียบเปรยผู้หญิงเหล่านี้ว่า
"สงสัยจะได้แต่งกับงานมากกว่าได้แต่งกับคน"
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมบ้านเราไปแล้ว
ส่วนผู้ชายในสมัยนี้จะมาสวมบทบาทช้างเท้าหน้าแบบเดิมๆก็คงไม่ได้
จะหาสาวมาเป็นภรรยาสักคนไม่ใช่เจอหน้าถูกใจก็ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอได้เลย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นคนโสดเพิ่มมากขึ้นในบ้านเรา
หรือจะว่าไปอาจพูดได้ว่าเป็นแบบนี้ไปทั่วโลกแล้วก็ว่าได้
จะบอกว่าชีวิตคนโสดเหล่านี้ไม่มีความสุขชีวิตไม่สมบูรณ์แบบ
คงพูดอย่างนั้นไม่ได้
คนที่มีครอบครัวบางคน ก็ไม่ใช่ว่าชีวิตจะสดใสตลอดชีวิตสมรส
บางคนชีวิตคู่กับรันทดไม่ได้เป็นอย่างใจคิดก็มีให้เห็น ถึงกับพึมพำว่า
"รู้อย่างนี้ขออยู่เป็นโสดจะดีกว่า"
ปัญหาการหย่าร้างในปัจจุบันก็เพิ่มสูงขึ้นแต่เรื่องนี้ขอไม่กล่าวถึง
ที่เขียนทั้งหมดวันนี้ เพียงอยากให้ใครก็ตามที่ยังเป็นโสด
อย่าได้ไปคิดว่านี่คือปมด้อย ข้อบกพร่อง ของเราที่หาคู่ไม่ได้
บางทีเชื่อหรือไม่ อาจมีคนหลายๆคนแอบอิจฉาในความโสดของคุณอยู่ก็ได้
(ลุงแอ๊ดคนหนึ่งล่ะ)
มีเพลงอีกเพลงหนึ่ง เนื้อหาของเพลงตรงกันข้ามกับเพลง
"เป็นโสดทำไม"
ที่กล่าวถึงเบื้องต้น เพลงนี้คงเหมาะและเป็นไปตามยุคสมัยใหม่
ฟังแล้วก็น่าจะเป็นกำลังใจให้เหล่าคนโสดได้เป็นอย่างดี
เพลงนี้ชื่อเพลง "ข้อดีของคนโสด" โดย โอ วรต
เพลง ข้อดีของคนโสด – โอ วรต Feat.ต้น กัปตันโลมา
อัลบั้มใหม่ เพลงใหม่ โอ วรต ข้อดีของคนโสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น