เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เผยโฉม อดีตมหาประโยค 9 เข้ารีตอิสลาม

เผยโฉม

อดีตมหาประโยค 9 เข้ารีตอิสลาม




อ้างว่า "จบ ป.ธ.9 จากสำนักเรียนวัดอนงคาราม กรุงเทพฯ" ว่าแต่จริงหรือเปล่า เพราะไม่มีชื่อ "พระมหาชลิต ภักดีบุตร" ในสารบบประโยคเก้าเลย

นี่คือรายชื่อพระเปรียญ 9 ประโยค ตั้งแต่ พ.ศ.2474 -2540 จากวัดอนงคารามและวัดพิชยญาติการาม ที่นายคนนี้อ้างว่าเคยศึกษาและเรียนจบที่นั่น


ข้อมูลจาก "ทำเนียบพระเปรียญธรรม 9 ประโยค สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช 2549" จัดพิมพ์โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน ดังนั้น จึงต้องขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติช่วยตรวจสอบและยืนยืนอีกที


ดูแล้วก็ฮาดีนะ 55+ หาดูยาก ไม่ทำการบ้านมาก่อนหรือไง จะหลอกลวงทั้งทีไม่เนียนเอาซะเลย น่าสงสาร



นายชลิต ภักดีบุตร

(กดที่ภาพเพื่อชม)


วานนี้(16) เวลาประมาณ 20.30 น.ณ อาคารอเนกประสงค์ มัสยิดคอยริสซุนนะห์ ลาดบัวขาว ได้มีการจัดกิจกรรมค่ายการเรียนรู้วิถีชีวิตอิสลาม เป็นวันที่ 2 โดยได้เชิญ อ.ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม และ อ.อับดุลลอฮฺ ภัคดีบุตร ซึ่งเป็นอดีตพระมหาชลิต เคยจำวัดในสมัยนั้นอยู่ที่ภูเก็ต ก่อนพบคำสอนในไตรปิกฏ กล่าวถึงอัลลอฮฺ และท่านนบีมูฮัมหมัด

โดย อ.อับดุลลอฮฺเล่าว่าพ่อของท่านเสียชีวิตตั้งแต่เล็กๆ จึงมาอาศัยอยู่ข้างกำแพงวัด ก่อนจะมาเป็นเด็กวัด ก่อนที่จะขอบวชเณรเพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษา จนจบเปรียญธรรม 9 และได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย

ซึ่งในสมัยที่ไปเรียนนั้นศาสนาพุทธในอินเดียได้เสื่อมไปแล้ว ไม่มีคนใส่บาตร พระต้องหุงข้าวกินแอง แต่ด้วยความที่เป็นคนสนใจในการอ่าน และมีความสนใจในภาษาบาลี จึงไปอ่านไตรปิฏกของอินเดียที่เป็นภาษาดั่งเดิมและพบในคำสอนของไตยปิฏกที่กล่าวว่า "ฉันไม่ใช่ศาสดาคนแรก และคนสุดท้าย แต่จะมีศาสดาท่านสุดท้าย โดยจะเกิดในทะเลทราย ขี่อูฐ กำพร้าพ่อ-แม่"

นอกจากนั้นในคำสอนของพุทธเจ้ายังได้สอนให้มนุษย์รู้จักผู้สร้าง เช่น ตอนที่ท่านอธิฐานหลังกินข้าวมธุปายาท "หากโลกนี้มีพระผู้สร้างจริง หากมีผู้ที่สร้างฉันมาจริง ขอให้ถาดนี้ลอยทวนกระแสน้ำ" นั่นคือต้นทางของประวัติศาสตร์ที่ว่า ตรัสรู้

และในการเทศนาของท่าน จะบอกกับคนว่า "ความรู้ของฉันเปรียบเหมือนใบมะขามในกำมือนี้ พร้อมเด็ดใบมะขามไว้ในกำมือ แต่ความรู้ของผู้ทรงสร้างเปรียบเหมือนใบมะขามบนต้น"

ขณะที่ในคำสอนของไตยปิฏกยังระบุถึงคำกล่าวของพุทธเจ้าอีกว่า "ศาสนาของนี้จะมีอยู่ไปอีก 1,123 ปีต่อจากนั้นจะสลายไป"

จากนั้นอ.อับดุลลอฮฺเล่าต่อว่า ท่านก็ยังไม่เข้าใจคำสอนดังกล่าวในตอนนั้น จนมาได้พบกับการสอนศาสนาที่มัสยิดแห่งหนึ่ง ซึ่งสอนเกี่ยวกับผู้สร้างโลก และศาสดาท่านสุดท้าย จึงคิดว่าได้ว่า ทั้งหมดนี้เราเคยเรียนมาแล้ว และศาสดาองค์สุดท้ายก็ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากได้รับความรู้เพิ่มเติมในส่วนนี้จนกระจ่างชัดแล้ว จึงได้ประกาศเข้ารับอิสลามในเวลาต่อมา



ข่าว : พันทิป-ยูทู๊ป
23 พฤษภาคม 2554
http://alittlebuddha.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น