เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ
ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ
ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ
ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ
" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "
หน้าเว็บ
เกี่ยวกับฉัน
- Nitinandho
- อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย
ผู้ติดตาม
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
"สัมมาสติ"กับ "สติ" แตกต่างกันอย่างไร
"สัมมาสติ"กับ "สติ" แตกต่างกันอย่างไร
โดย Supareak Mulpong
สติ คือ เป็นเจตสิกที่ทำหน้าที่ระลึกถึงความทรงจำ
สติ แปลว่า ความระลึกเฉพาะ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่หลงลืม หรือแปลง่ายๆ ว่า เป็นตัวดึงสัญญาออกมารายงานให้ใจรับทราบ
สติที่ระลึกเรื่องทั่วไป (สญฺญากายา) คือจำรูปได้ จำเสียงได้ จำกลิ่นได้ จำรสได้ จำสัมผัสได้ จำความคิดได้ ก็เป็นสติธรรมดา ไม่เป็นบุญ ไม่เป็นบาป ตอบสนองต่ออารมณ์ทั้ง ๖ เมื่อมีวิญญานเกิดขึ้นมาเพื่อรับรู้อารมณ์ คือ รับรู้เฉยๆ ยังไม่มีการปรุงแต่ง เห้นคน รู้ว่าเป็นคน ได้ยินเสียงนกรู้ว่าเป็นเสียงนก ฯลฯ
หลังจากรับรู้ และใจรู้แล้วว่า สิ่งที่รู้เห็นคืออะไร ต่อมาจิตจะคิดปรุงแต่ง โดยสติจะลากเอาสัญญามารับอารมณ์ต่ออีก เพื่อคิดปรุงแต่ง
สติที่เป็นสัมมาสติ คือระลึกถึง สติปัฏฐาน, พุทธานุสสติ, ธรรมานุสสติ, สังฆานุสสติ, สีลานุสสติ, จาคานุสสติ, เทวตานุสสติ, อานาปานัสสติ, มรณานุสสติ, กายคตาสติ และอุปสมานุสสติ
เรียกได้หลายอย่าง คือ สตินทรีย์ สติพละ สัมมาสติ สติสัมโพชฌงค์ และเอกายนมรรค
สติ ที่แปลว่า รู้ตัว มาจากคำเต็มว่า สติสัมปชัญญะ แต่โดยทั่วไป จะเรียกว่า สติเฉยๆ เป็นเพียงการกำหนดรู้อริยาบท ไม่หลงลืม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น