เสาร์สดใส...ในซิดนีย์

เสาร์สดใส...ในซิดนีย์

หลังอากาศร้อนแสนสาหัสและฝนที่เทกระหน่ำลงมาในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนที่ผ่านมา ยังไม่รู้ว่าลมหนาวที่เมืองไทยปีนี้จะเย็นจับใจสักแค่ไหน หลายคนอาจเฝ้ารอด้วยความหวังว่า ปีนี้คงจะได้หยิบเสื้อกันหนาวตัวเก่งที่เก็บจนเก่ามาใช้งานจริงๆ จังๆ เสียที.... อยากสัมผัสลมหนาวในเมืองหลวงเหมือนคนอื่นๆ เลยถือโอกาสไปอุ่นเครื่องที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย การเดินทางไปออสเตรเลียใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ไม่ต้องทนทรมานอยู่บนฟ้านานเหมือนเดินทางไปซีกโลกตะวันตกที่ใช้เวลานานนับ 10 ชั่วโมง การท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ ดีตรงที่เราไม่ต้องทำการบ้านในการวางแผนการเดินทางแต่การเดินทางด้วยตัวเอง เราสามารถเลือกสถานที่ที่อยากจะไปได้ตามใจชอบ และใช้เวลาอยู่ตรงสถานที่ที่ประทับใจได้นานเท่าที่ใจต้องการ การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการคิดว่าจะไปไหนต่อ หรือจะไปอย่างไร การเดินทางในเมืองหลวงที่ทันสมัยอย่างซิดนีย์ก็ไม่ยุ่งยาก เพราะมีทั้งบริการขนส่งมวลชนและบริการสาธารณะ รถแท็กซี่พาเรามาถึงตลาด แพดดิงตัน (Paddington Market) บนถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) ในช่วงสายของวันเสาร์ ตลาด แพดดิงตัน (Paddington Market) บนถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) นักชอปปิงรู้จักถนนสายนี้ดีพอๆ กับถนน พิทท์ (Pitt Street) ที่เต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนม ต่างกันที่บนถนนสายนี้จะมีร้านของบรรดาดีไซเนอร์ชาวออสเตรเลียให้เลือกซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ที่ไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ไปซ้ำกับใคร การมาอยู่ที่นี่ในวันเสาร์ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเดินทาง เพราะทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า ไปจนถึง 4 โมงเย็น บริเวณโดยรอบโบสถ์บนถนนสายนี้จะมีตลาดนัดวันเสาร์ ที่มีร้านค้ากว่า 250 ร้าน มาเปิดขายสินค้าหลากหลายประเภท อาทิเช่น ดอกไม้ เครื่องประดับ เสื้อผ้า ไม้แกะสลัก เฟอร์นิเจอร์ ภาพเขียน ภาพถ่าย ฯลฯ ตลาดนัดวันเสาร์มีร้านค้ากว่า 250 ร้าน เปิดขายสินค้าหลากหลาย ดอกไม้สีสวยเติมความสดชื่นยามเช้า น้องหมานั่งรับแสงแดดอบอุ่น ฟ้าใสส่งแดดอุ่นมาบรรเทาความหนาวจากลมเย็น ร้านค้าในบริเวณตลาดนัดทยอยเปิดกิจการแต่ยังไม่คึกคักนักเราเลยถือโอกาสเดินตามกลิ่นหอมๆ ไปนั่งจิบช็อกโกแลตร้อนในร้าน Chocolate by the Bald Man Max Brenner ไม่ใช้ร้านช็อกโกแลตธรรมดา แต่มีสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ อิสราเอล และออสเตรเลีย ร้านที่ตั้งอยู่บนถนนออกซ์ฟอร์ดนี้เป็น 1 ใน 12 สาขา ในออสเตรเลีย เลือกสั่งดาร์คช็อกโกแลตร้อนๆ เติมความอบอุ่นให้ร่างกายก่อนจะกลับไปเดินชมสินค้าบริเวณตลาดนัดเลือกซื้อของฝากน่ารักๆ แล้วกลับมายืนรอเรียกรถแท็กซี่เพื่อไปยัง ชายหาดบอนได (Bondi Beach) Chocolate by the Bald Man Max Brenner ดาร์คช็อกโกแลตร้อนๆ ผืนฟ้ากว้างสีน้ำเงินเข้ม ต้นไม้สีเขียวสบายตา ทะเลสีคราม และฟองคลื่นขาวสะอาด เป็นสิ่งที่ได้พบเห็นเมื่อมาที่ถึงที่หมาย คลื่นลมทะเลดูรุนแรงต่างจากท้องทะเลบ้านเรา แต่คลื่นเหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักเล่นกระดานโต้คลื่นทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ทางเดินที่ทำไว้เป็นอย่างดี พาเราเลาะเรียบริมทะเลไปทางทิศใต้ แสงแดดในตอนนี้อบอุ่นพอที่เราจะถอดเสื้อกันหนาวออกเพื่อให้สายลมได้ปะทะร่างกายอย่างเต็มที่ เดินไปได้พักหนึ่งก็มาถึง อ่าวทามารามา (Tamarama Bay) อ่าวเล็กๆ ที่เปรียบเสมือนที่พักระหว่างทาง ผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ต้นไม้สีเขียวสบายตา ทะเลสีคราม และฟองคลื่นขาวสะอาด และเมื่อออกเดินต่อไปอีกระยะหนึ่งเราก็มาถึงปลายทางที่ ชายหาดบรอนเต้ (Bronte Beach) ที่ดูคึกคักด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนรวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างเรา ชายหาดทอดตัวเป็นแนวโค้งยาว ภาพความสดชื่นตรงหน้าชวนให้เรานั่งปล่อยใจไปกับความสวยงามของธรรมชาติจนยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา จึงได้รู้ว่าถึงเวลาไปชมสถานที่สำคัญของซิดนีย์กันแล้ว ชายหาดบรอนเต้ (Bronte Beach) ที่ดูคึกคักด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนและนักท่องเที่ยว ก่อนจะไปยังจุดหมายเราแวะที่ตลาด เดอะ ร็อค (The Rock Market) เป็นตลาดนัดวันเสาร์อาทิตย์ ที่ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่งเมื่อเทียบกับตลาดแพดดิงตัน ที่นี่ร้านค้าจะเรียงรายไปตามแนวยาวของถนน และเมื่อเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ก็มีร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ เปิดบริการรวมถึงมีการแสดงดนตรีให้ชม ที่ตลาดแห่งนี้มีเสื้อผ้า เครื่องประดับ งานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านไปจนถึงของที่ระลึกให้เลือกซื้อ และมีร้านอาหารเปิดบริการ เดอะ ร็อค (The Rock Market) ตลาดนัดวันเสาร์อาทิตย์ หลังจากเติมพลังด้วยพิซซ่าถาดใหญ่เรียบร้อยแล้วเราจึงออกเดินช้าๆ จากบริเวณตลาดผ่านท่าเรือเพื่อไปยัง ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ (Sydney Opera House) ระหว่างทางมีจุดพักชมวิวที่อยู่ตรงกลางระหว่าง สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ (Sydney Habour Bridge) และ ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ ให้เราหยุดชมความงามทางสถาปัตยกรรม และเก็บภาพที่ระลึกกับสถาปัตยกรรมสำคัญของซิดนีย์ทั้งสองแห่ง สะพาน ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ (Sydney Habour Bridge) สถาปัตยกรรมสำคัญของซิดนีย์ ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ ในวันเสาร์ ครึกครื้นไม่แพ้สถานที่อื่นๆ ไม่เพียงเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ทุกวันอยู่แล้วแต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ชาวเมืองซิดนีย์เองก็ออกมาพักผ่อนที่นี่เช่นกัน ในอดีตวาทยกรชาวอังกฤษเชื้อสายเบลเยียมชื่อ ยูจีน กูสเซนส์ (Eugene Goossens) ได้ลั่นวาจากับชาวซิดนีย์ว่า จะพยายามสร้างวงดุริยางค์ ซิดนีย์ ซิมโฟนี ให้เป็นวงดุริยางค์ที่ยิ่งใหญ่วงหนึ่งของโลก และคุณกูสเซนส์ก็ทำได้ตามคำมั่นสัญญาเสียด้วย แต่ปัญหาที่ตามมาคือความสำเร็จของวงดุริยางค์ที่ยิ่งใหญ่ไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับจัดแสดง คุณกูสเซนส์จึงพยายามผลักดันให้นครซิดนีย์ สร้างอาคารสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ จนมาเป็น ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ สัญลักษณ์สำคัญของนครซิดนีย์และประเทศออสเตรเลีย บนแหลมเบนเนลอง (Bennelong Point) แห่งนี้ในที่สุด ชาวเมืองซิดนีย์ออกมาพักผ่อนที่ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ (Sydney Opera House) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เคยมีคำกล่าวว่า "ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ เป็นประติมากรรมขนาดมหึมา" ก็เห็นจะจริงเพราะในอาคารความสูง 183 เมตรนี้ มีห้องต่างๆ และส่วนใช้สอยจำนวน 1,000 ห้อง หลังคารูปใบเรือใช้แผ่นหินแกรนิตสีขาวจากประเทศสวีเดน จำนวนมากถึง 1,056,000 แผ่น และใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 102 ล้านเหรียญออสเตรเลีย เดินกลับออกมาจากซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ หยุดยืนฟังเพลงแจ๊สจากนักดนตรีอารมณ์ดีที่นั่งบรรเลงอยู่ที่ร้านอาหารบริเวณทางเดินด้านล่างยิ่งได้บรรยากาศของวันหยุดพักผ่อน ได้มาเห็นสถานที่สำคัญของซิดนีย์แล้ว แต่การเดินทางยังไม่จบเพราะออสเตรเลียยังมีสถานที่น่าสนใจรอให้เราไปค้นหาอีกมากมาย นักดนตรีอารมณ์ดีบรรเลงดนตรีแจ๊สบริเวณซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ ยังมีเรื่องดี ๆ วันแดดอุ่นและฟ้าใสในซิดนีย์ที่อยากเล่า อีกมากมาย ซิดนีย์ไม่ได้สวยเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น@ กรุงเทพธุรกิจ @taste เสาร์ 24 พฤศจิกายน 51 ปวิตร สุวรรณเกต pavitsu@yahoo.com หมายเหตุ การเดินทาง : การท่องเที่ยวออสเตรเลีย www.tourism.australia.com แพดดิงตัน www.paddingtonmarket.com.au Chocolate by the Bald Man Max Brenner www.maxbrenner.com.au เดอะ ร็อค www.therocksmarket.com.au

โดย @taste_กรุงเทพวันอาทิตย์