เมื่อชีวิตก้าวเดินไปเรื่อยตั้ง
แต่เกิดมา จำความไได้ บางคนก็เจอทุกข์เจอสุขไม่เหมือนกันบางทีเจอความสุขมากในวันนี้พอพรุ่งนี้ก็มีความทุกข์เกิดขึ้นมา จึงเป็น
ธรรมดาที่จิตใจเราอาจจะพยายามหาทาออกบอกตนเองด้วยการหาสิ่งมากล่าวโทษ เพื่อลด
ความโมโหหรือก็คิดโต้ภายในให้ใจเราดีขึ้น บางคนก็กล่าวโทษฟ้า
ดิน กล่าวโทษโชคชะตา กล่าวโทษคนอื่นหรือสิ่งใดๆที่เกี่ยวพันคิดว่าทำใหห้เกิดเรื่องเหล่า
นั้น ข้าพเจ้าก็เคยเช่นกัน
เมื่อในอดีตที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเกิดโทสะ
ภายในทำอะไรบางทีไม่ได้ดังใจก็กล่าวโทษฟ้าดิน เมื่อมาฝึกฝนขัดเกลาตนเองมากขึ้นภายในก็
เข้าใจว่าการกล่าวโทษโชคชะตาเป้นเพียงยาย้อมใจให้ตน แต่ทาง
หลุดจากความทุกข์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นไม่ได้ดีขึ้นเลย ถ้าเราไม่ปฏิบัติหรือควบคุม
สภาวะภายในให้สงบลง เมื่อถึงที่สุดก็จะพบแต่ความทุกข์เช่นเดิม
ปัญหาไม่มีทางแก้ได้หากโทษสิ่งนั้นสิ่งโน้นอยู่ เมื่อข้าพเจ้าเข้าใจ เราก็จะก้าวไปโดยไม่โทษสิ่ง
อื่นนอกจากตัวเราเอง อีกทั้งถ้าเรามีแต่นั่งรอนอนรอข
้ออ้างที่เราคิดว่าจะย่้อมใจเราได้ก็ได้
เพียงแค่แวบเดียว ข้าพเจ้าจึงไม่มานั่งคิดมากคิดน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่แก้เอง เพราะนั่น
ยังไม่ใช่การแก้ปัญหา
เมื่อมองรอบข้างสถานการณ์ของโลกปัจจุบันของแต่ละประเทศความแตกต่างย่อมมีมากมาย
เพราะสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ตามธรรมชาติอาจจะแตกต่างกันบ้าง
ตามเขตและ พื้นที่ โดยเมื่อมองประเทศของเราแล้วความวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้นบางคนก็กล่าวแต่เพียงว่าเป็นโชคชะตา ฟ้าลิขิตแต่นั่นยังไม่ใช่จุดที่จะแก้ปัญหาที่
เกิดขึ้นกับประเทศหรือกับโลกของเราได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการกระทำที่ผ่านๆมาของมนุษยชาติ
เช่นปัญหาโลกร้อน ปัญหาการขัดแย้งของเผ่าพันธุ์
เชื้อชาติแม้แต่ปัญหาการไม่ถูกกันของแต่ละสถาบันความวุ่นวายไร้ความสงบสุขจากสังคมมีมากมายหากแต่
เราไม่มองเป็นเพียงโชคชะตาที่กำหนดมาแล้ว การรีบหาทางแก้ไขย่อมตามมาแต่เมื่อใดที่เราทิ้งปัญหาให้โชคชะตารับไปไร้รูปลักษณ์หากเป็นแค่คำพูดปัด
ความรับผิดชอบหรือเพียงแค่ความสบายใจชั่ว คราวเท่านั้น เท่ากับว่าเรายอมแพ้กับปัญหาไม่นำพาสู่การปฏิบัติแก้ไขย่อมส่งผลร้ายต่อสังคมไม่สิ้นสุดตามมาข้าพ
เจ้ามองเรื่องโชคชะตาและดวงต่างๆเป็นสิ่งที่เรารับรู้
รับทราบอย่างเข้าใจและไม่เสียหาย แต่ตัวเราเองถ้าไม่กระทำไม่ปฏิบัติสิ่งที่เราคาดหวังหรือต้องการคงจะไม่สำเร็จได้ถ้าเรารอเพียงโชคชะตาและดวงพาไป
การกล่าวโทษไม่มีประโยชน์อันใดหากใจเราไม่ลุกขึ้นสู้พร้อมกับการปฏิบัติ แก้ไขก้าวไปพร้อมกัน ไม่หวาดหวั่นกับขวากหนามแม้มันจะเหนื่อยยากลำบาก
มากมาย ข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่าบุคคลที่ตั้งใจกระทำความดีตั้งใจทำงานรับผิดชอบครอบครัวหรือมีภาระงานอันยิ่งใหญ่เหนื่อยและท้อแท้ใจกับมรสุมที่พบเจอ
แต่ผลที่ได้รับ ย่อมดีย้อนกลับหากเราปฏิบัติในสิ่งที่ดีงามและถูกต้องแม้การมองเรื่องโชคชะตาดวงหรือเรื่องลี้ลับต่างๆจะมีเข้ามาบ้างก็ให้มองอย่างเข้าใจไม่
ลบหลู่แต่ให้เข้าใจรับรู้ไม่นำสู่การลุ่มหลงไร้สติจนไม่นำตนสู่การดำรงตนตามระบบธรรมชาติที่เป็นอยู่ ขอเพียงเราเชื่อในการกระทำของตน ย่อมยังผลต่อความ
สำเร็จอย่างแน่นอน
การเดินทางของมนุษย์แม้สุดโหด หรือจะโลดแล่นตามงานกระแส
หรือจะสวยราบรื่นไม่ลื่นแล ก็ให้แค่มองเป็นเช่นกระทำ
ไม่โทษอื่นโทษใครยัดให้ผิด ไม่ใช่คิดแค่เป็นโชคแล้วโลภซ้ำ
ไม่ใช่มองเป็นแค่ดวงถ่วงเจ้ากรรม ไม่ใช่จำแต่มาพูดปูดกรรมเลว
การกระทำคือตัวชี้ที่ดีชั่ว เราทำตัวอย่างไรใยตกเหว
หรือเราแค่นอนแน่นิ่งไม่วิ่งเลว ก็ตกเหวทั้งที่ตัวไม่กลัวกรรม
โชคจะช่วยดวงจะให้ใช่ลุ่มหลง ทำงวยงงงปลงใจไม่กระทำ
หนีบ่วงกรรมได้อย่างไรใจตอกย้ำ ถ้าไม่นำธรรมเข้าช่วยด้วยความดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น