เมื่อญี่ปุ่นจะสร้างพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับโครงการเมืองแห่งโลกอนาคต The Shimizu Mega-City Pyramid
รายการ "สำรวจโลก" Explorer ช่องรายการสารคดี ๒๔ ชั่วโมงของ Nextstep Television ได้นำเสนอเรื่องราวเชิงเทคโนโลยีและวิศวกรรมตอนหนึ่งซึ่ง กล่าวถึ งโครงการก่อ สร้างที่โตเกียว เห็นแล้วน่าสนใจมาก ทันทีที่ได้ชมรายการนี้จนจบ ผมก็ลงมือเขียนต้นฉบับเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีเลยครับ
Mercer สถาบันที่ปรึกษาการบริหารที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ทำการสำรวจ เมืองใหญ่ๆของหลายประเทศกว่า 200 เมือง จาก 6 ทวีป โดยตั้งชื่องานวิจัยนี้ว่า "เมืองท ี่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ประจำปี 2009" โดยที่การสำรวจนี้มุ่งเน้นพิจารณาข้อมูลจากค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน กว่า 200 รายการ อาทิเช่น ที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายด้านบันเทิง อาหาร เสื้อผ้า และอื่นๆ ซึ่งผลสำรวจที่ออกมาก็พบว่าเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ ๑ ก็คือ "มหานครโตเกียว"แห่งญี่ปุ่นครับ
ภาพที่ ๑ โตเกียว เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ประจำปี 2009
&n bsp; และแน่นอนว่าญี่ปุ่นเองก็เจอและรู้เห็นปัญหานี้มานานก่อนที่ทางMercer จะทำการสำรวจเสียอีกเพราะประชากรร้อยละ ๑๐ ของประเทศญี่ปุ่น จำนวนกว่า ๑๒ ล้านคนต่างเข้ามาแออัด ยัดเยียดกันอยู่ที่กรุงโตเกียว ทว่า..เมืองที่เร่งรีบแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมและถูกเลือกให้เป็น ๑ ใน ๕ เมืองที่น่ าอยู่ที่สุดในโลก! และแม้ว่าระบบขนส่งของที่นี่จะได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีความเร็วและระบบการ บริหารจัดการให้ดีที่สุดเพียงใดก็ตาม แต่ปัญหาที่คนญี่ปุ่นกำลังประสบพบเจออยู่ ณ ปัจจุบันก็คือ เวลาที่ใช้ไปในการเดินทางนั้นก่อให้เกิดความสูญเสีย(MUDA)และเกิดค่าใช้จ่าย ที่ยังมากอยู่ ซึ่งโดยธรรมชาติของคนญี่ปุ่นที่มักจะมีนิสัยชอบการปรับปรุง พัฒนาอะไรต่างๆอยู่เป็นนิจ ดังในคำในภาษาญี่ปุ่นที่เรียกว่า Kaizen (Continuous Improvement) ทำให้มีหลายคนกำลังฝันถึงบางสิ่ง..บางอย่างที่กำลังจะเข้ามาปรับปรุงชีวิต ความเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้นยิ่งกว่านี้
และนั่นเป็นที่มาของแนวความคิดที่จะสร้าง"เมืองในแนวตั้ง"อย่างกับที่เรา เคยเห็นในภาพยนตร์ไซไฟ (Sci-Fi) อย่างเรื่อง The Fifth Element หรือ I-Robot กับสิ่งที่กำลังท้าทายวงการวิศวกรรมที่พวกเขาคิดฝันว่าจะ"ทำในสิ่งที่เป็นไป ไม่ได้"
ภาพที่ ๒ โฉมหน้าของโครงสร้างมหัศจรรย์ที่กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการวิศวกรรม
Shimizu Group กลุ่มบริษัทออกแบบและก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของญี่ปุ่น ได้นำเสนอโครงการ"สุดยอดอภิมหาเมกะโปรเจค" ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาตร์การสร้างเมืองของมนุษยชาติเพื่อมุ่งหน้าสู่ โลกแห่งอนาคต ที่มีชื่อว่า "The Shimizu TRY Mega-City Pyramid" ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างเคหะสถานรูปทรงพีระมิดขนาดยักษ์ที่บรรจุเมืองขนาด ย่อมๆทั้งเมืองเอาไว้ภายในโครงสร้าง ณ บริเวณอ่าวโตเกียว
ภาพที่ ๓ Concept Design ของมหาพิระมิดแห่งโตเกียว The Shimizu Mega-City Pyramid
โครงสร้างเบื้องต้นของ Mega-City Pyramid ที่ออกแบบไว้จะสูงกว่าปิรามิดแห่งอียิปต์ ที่เมืองกิซ่าอยากมากมาย โดยความสูงจะอยู่ที่ ๒,๐๐๔ เมตร หรือ ๒ กิโลมตรจากพื้นดิน และอัตราส่วนจะใหญ่โตกว่าถึง ๑๒ เท่าเลยทีเดียว ซึ่งจะมีแนวเส้นรอบวงชั้นฐานของอาคารขนาด ๒,๘๐๐ เมตร หรือมีพื้นที่ประมาณ ๒๕ ตารางกิโลเมตร ซึ่งถ้าหากโครงการนี้มีการก่อสร้างจ ริงแล้วล่ะก็ มันจะกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์ เคยสร้างขึ้นมาเลยล่ะครับ
ภาพที่ ๔ ลักษณะโครงสร้างของพิระมิดและตำแหน่งพิกัดทางภูมิศาสตร์
ส่วนภายในตัวอาคารจะแยกเป็นสัดส่วน ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- พื้นที่สำหรับพักอาศัย ๒๔๐,๐๐๐ ยูนิต เพียงพ อสำหรับรองรับประชากรได้ ๗๕๐,๐๐๐ คน< BR>-พื้นที่เชิงพาณิชย์ ๒๔ ตารางกิโลเมตร รองรับคนได้ ๘๐๐,๐๐๐ คน
- พื้นที่สำหรับงานด้านวิจัยและพักผ่อนสันทนาการ ๑๔ ตารางกิโลเมตร
แต่ ละอาคารจะมีแหล่งพลังงานของตัวเอง โดยมาจากแหล่งความร้อนของแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของระบบ ดังนั้นไฟฟ้าอีกส่วนที่จ่ายเข้าสู่เมืองพิระมิดแห่งนี้จะมาจากพลังงานจากคลื่นที่อ่าว และการสกัดจากสาหร่ายชนิดหนึ่งที่จะมีพิ้นที่สำหรับสร้างไฟฟ้าที่บริเวณฐาน ของพิระมิด นอกจากนี้กระจกและพื้นที่บางส่วนของพีระมิดจะถูกเคลือบด้วยฟิล์มที่มีค วาม บางในระดับนาโนเมตรซึ่งบรรจุเซลล์โฟโต้โวลตาอิก (Photov oltaic Cells) เอาไว้เพื่อทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงแดดไปเป็นไฟฟ้าเพื่อใช้เป็นแหล่ง พลังงานหลักของพีระมิดยักษ์แห่งนี้
ภาพที่ ๕ โครงสร้างฐานและตัวอาคาร
อีกประเด็ นที่น่าสนใจของการออกแบบโครงการนี้คือ การเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงมากจนมีการวิจัยทำวัสดุพิเศษเพื่อมาใช้เสริมให้กับเหล็กกล้าคือ คาร์บอน นาโนทิวส์ (Carbon Nanotubes)ซึ่งเป็นวัสดุที่มีโครงสร้างพื้นฐานของกราไฟท์ จะคล้ายกับโมเลกุลของเพชร และน่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของวงการโลหะการ (Metallurgy)ในปัจจุบัน
ภาพที่ ๖ อาคารและการคมนาคมขนส่งประชากร
ส่วนการเดินทางภายในตัวอาคาร ได้มีการออกแบบให้ใช้ทางเลื่อนความเร็วสูง(ประมาณ ๔๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และลิฟท์ทางลาด รวมทั้งระบบขนส่งมวลชนภายใน ซึ่งไม่ต้องใช้คนขับ ส่วนพื้นที่สำนักงานและพักอาศัยซึ่งจัดทำเป็นอาคาร ๓๐ ชั้น มีระบบกันสั่นสะเทือนตั้งแต่ชั้นบนลงมาถึงชั้นล่างและยึดติดกับโครงสร้างพีระมิดด้วยเคเบิลทำจากนาโนทิวส์
ภาพที่ ๗ ระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้าพลังงานสะอาด
Dr. Kenji Kaneko ตำแหน่ง Senior Research Scientist AIST ได้กล่าวถึงหุ่นยนต์รุ่น HRP-3 Promet Mk-II ผลงานการพัฒนาของบริษัทคาวาดะอินดัสทรีส์ (Kawada Industries) ซึ่งร่วมกับบริษัทคาวาซากิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Kawasaki Heavy Industries) และสถาบันเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมชั้นสูงนานาชาติหรือ National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) วิจัยหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ความสูง ๑๖๐ เซนติเมตร (๕ ฟุต ๑๐ นิ้ว) น้ำหนัก ๖๘ กิโลกรัมหรือประมาณ ๑๔๙ ปอนด์ (รวมแบตเตอรี่) ใบหน้าสวมแว่นกันแสงอาทิตย์ บริเวณมือสามารถเกาะยึดและสามารถสร้างสมดุลย์ลำตัวขณะเคลื่อนที่โดยการถ่วง น้ำหนักช่วงแขนเช่นเดียวกับมนุษย์เพื่อใช้เป็นแรงงานในการสร้าง The Shimizu TRY Mega-City Pyramid และ
บทสัมภาษณ์ D r.Dante N. Bini CEO Binisystems ผู้คิดค้นวิธีการสร้างโดมหลังคาแบบใหม่โดยใช้ลม< /SPAN> (Pneumatic) ในการยกโครงสร้างหลังคา หลังจากเทคอนกรีตแล้ว ซึ่งเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการก่อสร้างในยุคที่มีการแข่งขันเรื่องการลดต้นทุนได้อย่างฉลาดหลักแหลมเลยทีเดียว พีระมิดที่สร้างขึ้นที่ las Vegas และการทดลองสร้างโมเดลจำลองของ The Shimizu Mega-City Pyramid เพื่อทดสอบการต้านลม และคลื่นจากน้ำ รวมไปถึงการทดลองใช้วัสดุในทางวิศวกรรม โดย Dr.David Tomanek ซิ่งเป็น Professor ทาง Physics จาก มหาวิทยาลัย MSU ได้กล่าวถึงคาร์บอน นาโนทิวส์ (Carbon Nanotubes)วิทยาการวัสดุสมัยใหม่ และหุ่นยนต์ของ AIST ที่จะเข้ามาสร้างเจ้าพีระมิดยักษ์แห่งนี้ |
|
|
|
|
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ผจก.เสรี จิตตรีพรต (ผจก.ฝ่ายผลิตน้ำตาลทรายดิบ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น