Generation X generation Y คืออะไรครับ
พอดีอิฉันเกิดหลังยุค Baby Boom (ยุคบุปผาชน)ได้ถูกผลัดยุคสิ้นไปไม่กี่ปี แล้ว Gen .X เพิ่งก่อกำเนิดมาได้ไม่กี่ปีเช่นเดียวกัน ..แบบล่อให้งงว่าวัยไหน
มีคนให้ความหมายของ Generation X (Extraordinary) ไว้แบบนี้
" Life exists elsewhere in the universe."
นี้ควรเป็นคำกล่าวที่น่าจะเป็นนิยามอย่างดีสำหรับชาว X'ers เชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเองก็คงมีช่วงเวลาหนึ่งที่อยากจะค้นหาความหมายของชีวิต อยากจะทำแต่สิ่งที่อยากทำ อยากลองเสี่ยงแต่จริงจังกับความรู้สึกโดยไม่มีเงื่อนไขหรือมีสภาวะใดๆมาบีบบังคับ คุณอยากดื้อดึงและยืนหยัดกับความเป็นตัวของตัวเอง เพียงขอให้ได้ผจญภัยในชีวิต แม้สักครั้ง..ก็ยังดี
Generation X คือ กลุ่มคนที่อายุ 29-43 ปี มีลักษณะพฤติกรรมชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการให้ความ สำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance) มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและ พัฒนาตนเอง
ในด้านการทำงาน ยิฟฟี่ หรือ gen X จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีความตั้งใจและความทะเยอทะยาน เพราะเกิดมาในยุคที่การแข่งขันสูง (เทียบดูกับประวัติศาสตร์ก็คือ ยุคอุตสาหกรรมเศรษฐกิจเฟื่องฟูหลังสงครามอะไรทำนองนั้น) แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่ว่าคนรุ่นนี้รักอิสระ ยิฟฟี่จึงรู้จักจัดสรรเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนให้คล่องตัว และเริ่มยืดชีวิตโสดของตัวเองออกไป
ในด้านการใช้จ่ายเงินนั้น เหล่ายิฟฟี่กลับมีความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินตรามาก ในงานวิจัยจัดว่าเป็นกลุ่มที่ใช้เงินเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ซื้อ แต่อะไรที่จำเป็น ถึงจะแพงแค่ไหน ก็ควักตังค์จ่ายได้โดยไม่ลังเล และเพราะความระมัดระวังในการจัดการรายรับรายจ่ายนั้น การเข้ามาของเทคโนโลยีก็มิได้ทำให้คนรุ่นนี้ถึงกับเพ้อคลั่งนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ข้ามวันข้ามคืนเหมือนเด็กรุ่นใหม่บางคน แต่เขาจะใช้เพื่อการทำงานและเพื่อความสะดวกสบายเท่านั้น
Generation Y (Why I was born?)
gen Y คือ ผู้ที่กำลังก้าวเข้ามาสู่วัยทำงาน
หากดูจากหลายๆตำราแล้ว gen Y จะจัดเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 15 - 30 ต้นๆ เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมกับความสงสัย เป็นรุ่นลูกของ gen X และมีปู่ย่าตายายเป็น gen B เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาด้วยความเพียบพร้อม และความสับสน
BK ให้ภาพ Generation Y แบบไทยๆ ไว้น่าสนใจว่า Gen ' Y เป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาบ้านเมืองสงบและง่ายดายขึ้น พวกเขาไม่รู้จักเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พวกเขามีแม่บ้านคอยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ มีรถที่พ่อแม่ซื้อให้ เชี่ยวชาญการท่องเน็ท เคเบิลทีวี และโทรศัพท์มือถือ หรือ PDAs ซึ่งทำให้เข้าถึงหาข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
BK ยังบอกอีกว่า นับแต่โมเดิร์นด็อก วงอัลเทอร์เนทีฟของเมืองไทยปรากฏตัวขึ้นเมื่อปี 1994, เป็นเอก รัตนเรือง ทำหนังฝันบ้าคาราโอเกะ ในปี 1997 ,แฟตเรดิโอ และอะเดย์ แมกกาซีน ในปี 2000 , ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้ Generation Y มีพื้นที่ของตัวเอง สื่อต่างๆ เหล่านี้บอกว่า ทุกๆ คนสำคัญและมีหนทางของตัวเอง การตลาดเพื่อคนส่วนใหญ่ ( mass ) นั้นเชย ( out ) ไปแล้ว การตลาดเล็กๆ แต่ เก๋ กำลังอิน พวกเขาเปลี่ยนผ่านจาก จิ๊กโก๋- เด็กอัลเทอร์-เด็กอินดี้ -และกลายเป็น-เด็กแนวในที่สุด
เรื่อง Relationships ของพวกเขา ยิ่งเป็นเรื่องง่ายของGen' Y เหมือนกับ กดปุ่ม " Add as Friend " ใน My Space เรื่องเอนเตอร์เทนทั้งหลายอีก Gen ' Y สนองความต้องการของตัวเองได้ทันที แค่ คลิก iTunes หรือ BitTorrent
ในที่ทำงาน BK บอกว่า Gen ' Y มักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก พวกเขามักจะต้องการเงินเดือนสูงๆ และไม่ต้องการไต่เต้าการทำงานจาก "ข้างล่าง" พวกเขาคาดหวังเงินเดือนมากกว่าคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 10 ปี
พวกเขาไม่ได้ต้องการคำแนะนำว่า ควรหรือไม่ควรทำอะไร ไม่เชื่อในการใส่ยูนิฟอร์ม ไม่เชื่อเวลา 9-5 ของออฟฟิศ เวลาทำงานให้ใครพวกเขาต้องการอิสระและเป็นตัวของตัวเอง พวกเขาพูดว่า "ไม่" ทันทีถ้าไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นส่วนใหญ่ และหลายๆ คนใน Generation Y มักจะทำงานแบบ Freelance
ถึงแม้ gen Y จะมีข้อเสียอยู่มาก แต่พลังทางความคิดก็เป็นที่ต้องการในสังคม(หากเอามาใช้ในทางที่ถูกนะ) แต่...อีกแล้ว...gen Y จัดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความภักดีต่อองค์กรน้อยที่สุด เปลี่ยนงานบ่อยที่สุด
ที่มา:
http://www.faylicity.com/book/x.html
http://kororo.exteen.com/20080303/generation-y
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=a-wild-sheep-chase&month=12-2006&date=04&group=4&gblog=12การศึกษาทำความเข้าใจในเรื่องของ Generation นั้นเรื่องที่มีผู้ให้ความสนใจและทำการศึกษากันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางสังคมศาสตร์ เช่น สาขาที่เกี่ยวข้องกับสังคมวิทยา ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและนิเทศน์ศาสตร์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น โดยมุมมองและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ Generation นั้นจะมีผู้ที่จำแนกแบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ มากมาย ดังเช่นในสหรัฐฯ มีผู้แบ่ง Generation ออกเป็น 7 Generation ตั้งบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จนมาถึงปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น
1) Lost Geration,
2) Gratest Generation
3) Baby Boomers
4) Generation Jones
5) Generation X
6) Generation Y
7) New Silent Generation
Generation X หรือ X Generation หรือ Gen-X : เป็นผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2508 - 2523 (ค.ศ.1965 – 1980) [6] คนในยุคนี้จะมีความแตกต่างกับคนในยุค Baby Boomers เพราะมีการต่อสู้ดิ้นรนที่น้อยกว่า เพราะเป็นคนในรุ่นลูกหลานของ Baby Boomers และเนื่องจากสภาพโดยรวมของเศรษฐกิจดีกว่ายุคที่ Baby Boomers กำลังอยู่ในวัยทำงาน ทำให้ Gen-X สามารถเลือกงานได้มากกว่า สามารถตั้งเงื่อนไขให้แก่ที่ทำงานได้ว่าตนเองต้องการทำงานแบบไหน เมื่อไร และอย่างไร คนในยุคนี้ในขณะที่มีอายุเท่ากันจึงต่างกันมาก Baby Boomers ทำงานด้วยความดิ้นรน ใช้แรงงาน รายได้น้อย และมักจะทำงานคนเดียว ในขณะที่ Gen-X ทำงานในลักษณะใช้ความคิด สมาชิกหลักในครอบครัวทำงานทั้งสองคน รายได้ดีทั้งคู่ ใช้ชีวิตแบบคนทันสมัย และหลายๆ คนเป็นหัวหน้างานของ Baby Boomers ที่อายุมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า แต่การศึกษาต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการบางส่วนแบ่งคนในยุคนี้ออกเป็น กลุ่มย่อยที่เรียกว่า Yuppies ซึ่งเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวสมัยใหม่ในขณะนั้นที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ เป็นห่วงเป็นใยในเรื่องของภาพลักษณ์ กล้าที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คนในยุคนี้หลายคนนิยมใช้บัตรเครดิต
Generation Y หรือ Y Generation หรือ Gen-Y หรือ Why Generation : เป็นผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2523 - 2537 (ค.ศ.1980 – 1994) [7] : เป็นกลุ่มคนที่เกิดขึ้นมาท่ามกลางความแตกต่างระหว่าง Baby Boomers กับ Gen-X โดยที่ Baby Boomers อาจจะเป็นปู่ย่าตายายหรือญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว และมี Gen-X เป็นบิดามารดา โดยที่ Baby Boomers ในครอบครัวอาจจะอยากให้ Gen-Y ทำตัวอยู่ในกรอบ แต่ Gen-X กลับอยากให้ Gen-Y เป็นตัวของตัวเอง และท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่เดิม Gen-Y จึงมักจะสับสน แต่ก็มีความต้องการที่จะสำเร็จในทุกอย่างที่สนใจอย่างรวดเร็วกว่า Baby Boomers และ Gen-X นอกจากนี้ Gen-Y ยังเป็นคนที่มีความใจร้อน ต้องการเห็นผลสำเร็จทุกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื่อในศักยภาพของตนเอง และเชื่อว่ามีความพร้อมด้านฐานะทางการเงินที่มักจะได้รับการสนับสนุนจาก Gen-X ซึ่งมีรายได้ดี โดยคนที่เป็น Gen-Y มีความเชื่อว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นต้องทำงานหนัก ทำให้มีการแต่งงานช้าลง มักจะแต่งงานเมื่ออายุ 30 ขึ้นไป ถ้ามีแฟนแล้วแฟนมีอุปสรรคกับงานก็เลิกกับแฟน เลือกงาน คนกลุ่มนี้มักเปลี่ยนงานบ่อย มีการบริหารเงินจากเครื่องมือต่าง ๆ คนกลุ่มนี้จึงมีเครดิตการ์ดมากกว่า 1 ใบ มีการใช้บริการประเภท Personal Credit มากขึ้น
Generation Y คือเด็กวัยรุฯยุคใหม่
....เด็กเหล่านี้กล้าแสดงออก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว..โดยเฉพาะรูปร่าง หน้าตาที่สะดุดตา สะดุดใจ......พวกเขาไม่แคร์ต่อคำวิจารณ์ พกความมั่นใจมาเกินร้อย....จนบางคนดูแล้วไม่เห็นจะน่ารักเลย....
มีคนให้นิยาม ลักษณะของ Gen-Y ไว้ดังนี้
* มีความมั่นใจในตัวเองสูง
* กล้าแสดงออก ไม่หวั่นกับคำวิจารณ์
* ชอบทางลัด สะดวก รวดเร็ว และไฮเทคโนโลยีเป็นที่สุด
* ทุกคำถามมีคำตอบในโลกอินเตอร์เน็ต
* สมัครงานผ่านอินเตอร์เน็ต
* คุยกันทางอินเตอร์เน็ตติด MSN งอมแงม(แทนการคุยทางโทรศัพท์)
* เป็นสาวก ไอพอด ไอโฟน มีเสียงเพลงเป็นเพื่อน
* หางานที่ถูกใจทำโดยต้องใช้ชีวิตสบายไปพร้อมๆกับค่าตอบแทนสูง ไม่ต้องเข้าออฟฟิศให้ปวดหัว
* ชุดทำงานขอใส่ตามใจฉัน ขอให้วัดกันที่ผลงานเป็นพอ
* ไม่ต้องการเวลาทำงานที่แน่นอน งานหนักต้องมาพร้อมกับผลตอบแทนที่ตนพอใจ
แต่ในทางการตลาด นิยมแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเจเนอเรชั่น โอ หมายถึงกลุ่ม เบบี้ บูม ที่อายุ 60 ขึ้นไป กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มเจเนอเรชั่น เอ็กซ์ ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี และกลุ่มเน็กซเตอร์ หรือกลุ่มมิลเลนเนียล (Millionial Group) หรือ กลุ่มเจเนอเรชั่น วาย ที่มีอายุสูงสุดประมาณ 20 ปี อ่าเพิ่มเติมได้ที่ http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=44635
ที่มา:http://www.tortaharn.net/contents/index.php?option=com_content&task=view&id=148&Itemid=73&ccselday=13&ccdate=7-2008
http://cms.srivikorn.ac.th/svk_forum/index.php?topic=148.0
http://prang9999.blogspot.com/2008/05/generation-y.html
ขอเสริมสักนิด..
หลังสมครามโลก ครั้งที่ 2 เข้าสู่ยุค Baby Boom (เด็กล้น)
Gen X มารับช่วงต่อ (ยุคคุมกำเนิด 1965 ถึงต้น 80)
สัญญลักษณ์ X แทนกากบาท (ไม่เอาเด็ก Baby Bust)
ยุคนี้ จึงเป็นยุคของคุณมีชัย วีรไวทยะ เจ้าพ่อถุงยาง (คุมกำเนิด)
ลูก ๆ ของ Gen X จะใส่เอวต่ำโชว์ขอบกางเกงใน เห็นร่องก้นเป็น
ตัว Y ก็เลยจำต้องรับฉายา Gen Y หรือล้อกันว่า Why it's me!
(ประมาณว่าโทษอะไรไม่ถนัดก็มาลงที่พวกกู) ฉายาที่โก้หน่อยก็
นิยมเรียกวันว่า "รุ่นมิลเล็นเนียม" (อายุ 16-30 ณ ปี 2008)
หลังรุ่น Gen Y โลกจะเข้าสู่ยุคนาโน ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียก
หรือให้สัญญลักษณ์อะไรอีก หวังว่าคงจะไม่บื้อ ๆ ทึ่ม ๆ ว่า Gen Nano
หรือ Gen N นะมีอะไรบ้างที่บ่งบอกว่า พวกนี้เป็น Gen Y
เมื่อปีที่แล้ว ผลสำรวจจากนักศึกษา 7,705 คนในสถาบันศึกษาที่อเมริกา
(ประเทศต้นกำเนิด Baby Boom, Gen X) ระบุว่า
* 97% มีเครื่องคอมพ์
* 97% นักดาวน์โหลด P2P (Peer to Peer)
* 94% มีและใช้มือถือ
* 76% ใช้ IM (Instant Messaging) และเป็นสมาชิก Social networking
* 15% เชื่อมต่อ IM ตลอด 24 ชม.ทุกวัน ตลอด 365 วัน/ปี
* 75% ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาใช้ Facebook
* 60% ใช้เครื่องเล่น MP3 พกพา (เป็นสาวก iPod)
* 49% ง่วนแต่ดาวน์โหลดเพลงจาก P2P
* 34% บริโภคข่าวสารอีเล็กโทรนิกส์เป็นแหล่งแรก
* 28% เขียนบล็อก 44% อ่านบล็อก
จะว่าไปแล้ว...
พวกเราในชุมชน Y! ก็โดนผี Gen Y อำอยู่เนือง ๆ นะ
Gen X
http://en.wikipedia.org/wiki/Generation_X
Gen Y
http://en.wikipedia.org/wiki/Generation_Y
เสริมท่านก่อนๆ ผมว่า ต่อจาก gen-M รุ่นล่าสุดคือ
5. gen-G
หรือ Graen Generation เกรียนเจเนเรชั่น (ไม่ได้กวนนะ พูดจริง แต่ใช้คำพูดไม่ค่อยเป็น ขอเรียกแบบนี้แล้วกัน)
คือวัย ป.- ม.ต้น ในปี 2008 เด็กส่วนใหญ่ในรุ่นนี้ ไม่ค่อยมีความฝันโตว่าขึ้นอยากเป็นอะไร ขาดแรงบันดาลใจแรงผลักดัน มีชีวิตไปวันๆ พร้อมกับอาการเสพติด เช่น เสพติดเกม อินเตอร์เน็ตเชิงบันเทิง วัตถุนิยม ฯลฯขอตอบตามที่ได้ศึกษามาบ้างนะคะ...
"การวิเคราะห์ผู้บริโภค..."
ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ คือ...
1.กลุ่ม Gen-B
Generation Boomer หรือ Baby Boomer Generation มีอายุปัจจุบันในช่วง
40-63 ปี ปัจจุบันนักการตลาดในหลายๆ ประเทศเน้นทำการตลาดกับกลุ่มนี้
เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อ มีศักยภาพในการบริโภคสินค้า
มีทัศนคติที่ดีต่อการซื้อจับจ่ายใช้สอยสินค้าเพื่อตัวเองและบุคคลใกล้ชิด
2.กลุ่ม Gen-X
Generation X มีอายุปัจจุบันอยู่ในช่วง 34-39 ปี บางตำราอาจกำหนดอายุของ
ผู้บริโภคกลุ่มนี้ไว้ต่ำถึงคนที่มีอายุ 26 ปี ในประเทศไทยเคยแบ่งกลุ่มนี้เป็น
กลุ่มย่อยเรียกว่า "Yuppies" เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่กล้าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ทำงานในลักษณะใช้ความคิด สมาชิกหลักในครอบครัวทำงานทั้งสองคน
ใช้ชีวิตแบบทันสมัย
3.กลุ่ม Gen-Y
Y Generation หรือ Why Generation อายุระหว่าง 25-33 ปี เป็นผู้ที่เกิดมา
พร้อมความสงสัยในความต่างทางความคิดของ Gen-B ที่อาจจะเป็นญาติ
ผู้ใหญ่ในครอบครัว และ Gen-X ผู้ซึ่งอาจจะเป็นผู้ให้กำเนิด ในขณะที่สมาชิก
Gen-B ในบ้านอาจเรียกร้องให้ Gen-Y ทำตัวอยู่ในกรอบ แต่ Gen-X กลับ
กระตุ้นให้ Gen-Y เป็นตัวของตัวเอง และท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่เดิม Gen-Y จึงมัก
จะสับสน แต่ก็มีความต้องการที่จะสำเร็จในทุกอย่างที่สนใจอย่างรวดเร็ว
โดยทั่วไปแล้ว Gen-Y เป็นผู้บริโภคที่ใจร้อน ต้องการเห็นผลสำเร็จทุกอย่าง
อย่างรวดเร็วเนื่องจากเชื่อในศักยภาพของตนเอง กลุ่มคน Gen-Y เชื่อว่า
การประสบความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นต้องทำงานหนัก ทำให้มีการแต่งงาน
ช้าลง ไม่ถึง 30 ไม่แต่ง ถ้ามีแฟนแล้วแฟนมีอุปสรรคกับงาน ก็จะเลิกกับแฟน
เลือกงาน คนกลุ่มนี้มักเปลี่ยนงานบ่อย มีเครดิตการ์ด>1ใบ ใช้บริการประเภท
Personal Credit มากขึ้น
4.กลุ่ม Gen-M
Gen-M หรือ Millennial Generation (ในบางตำรา Gen-M ถือว่าเป็นกลุ่มเดียว
กับ Gen-Z) หมายถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นเยาว์ ซึ่งอายุปัจจุบันในช่วง 18-24 ปี
บางตำราอาจครอบคลุมต่ำกว่า 18ปี บ้างก็เรียกคนกลุ่มนี้ว่า "เด็กแนว"
ผู้บริโภคกลุ่มนี้ เป็นผู้บริโภคที่เกิดมาและได้รับการดูแลเสมือนเป็นไข่ในหิน
ผู้ปกครองทุกคนในครอบครัวซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มอื่นๆ ได้แต่พร่ำสอนและ
ดูแลเพื่อไม่ให้สมาชิกในกลุ่มนี้ต้องตกอยู่ในอำนาจของสิ่งยั่วยุและยั่วยวน
ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในอดีต เช่น รายการทีวีมอมเมา บันเทิงยั่วยุอารมณ์
พฤติกรรมก้าวร้าว การตั้งครรภ์ในวัยไม่สมควร ฯลฯ
Gen-M จึงจัดได้ว่าเป็นผู้บริโภคแห่งความหวัง (Generation of Hope)
ที่ผู้ใหญ่หวังว่าจะมีชีวิตอยู่และแก้ไขความผิดพลาดที่ตนเคยทำในอดีต
คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ไม่ชิบเป็นลูกจ้าง
มีความต้องการเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก มีความอิสระในตัวเองค่อน
ข้างสูง มีแนวทางเป็นของตัวเองชัดเจน ไม่เหมือนใคร และไม่อยากให้
ใครเหมือน...
ที่มา : หนังสือหลักการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการสื่อสารเพื่อการพัฒนา
อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย : อาจารย์ณัฐนันท์ ศิริเจริญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น