เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ
ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ
ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ
ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ
" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "
หน้าเว็บ
เกี่ยวกับฉัน
- Nitinandho
- อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย
ผู้ติดตาม
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553
ซูฮาร์โต” ถึงแก่อสัญกรรม ปิดฉากชีวิตในวัย 86 ปี
“ซูฮาร์โต” ถึงแก่อสัญกรรม ปิดฉากชีวิตในวัย 86 ปี
« เมื่อ: มกราคม 28, 2008, 00:56:14 »
...
นายซูฮาร์โต
อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบแล้ว
มามือเปล่า....
ยศและลาภ หายไป ไม่ได้แน่
คงเหลือแต่ ต้นทุน บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
แม้ร่างตน ก็เอา ไปเผาไฟ
เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สนุก ทุกข์ไฉน
เมื่อเจ้ามา มือเปล่า จะเอาอะไร
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
เงื่อม อินทปัญโญ (พุทธทาสภิกขุ)
เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนเขาถูกส่งตัวรักษายังโรงพยาบาล
เนื่องจากความผิดปกติของหัวใจ ปอด และไต
นายซูฮาร์โตประสบภาวะอวัยวะล้มเหลว
หลังเข้ารับการรักษาได้ราวหนึ่งสัปดาห์
และที่ผ่านมาอาการเริ่มทุเลาขึ้น
จนกระทั่งเมื่อวานนี้สามารถหายใจได้เอง
คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาเปิดเผยเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้ว่า
รู้สึกแปลกใจที่ซูฮาร์โตต่อสู้กับอาการป่วยของโรค
ที่อยู่ในขั้นวิกฤตหนักได้ยาวนาน
แต่หัวหน้าคณะแพทย์ผู้ให้การรักษานายซูฮาร์โต
ได้ออกมาแถลงวันนี้ว่า อาการของอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
ได้ทรุดลงมาอยู่ในระดับวิกฤตหนัก
โดยนายซูฮาร์โตเริ่มมีอาการหายใจติดขัด
และความดันเลือดต่ำตั้งแต่เวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งสิ้นใจเมื่อ เวลา 13.10 ของวันนี้ ( 27 มกราคม 2551)
ซูฮาร์โต เมื่อครั้งยังอยู่ในตำแหน่ง
ในปี 1998
นายพล ซูฮาร์โต มีฉายาว่า ป๋าซู
เกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2464
ที่เดมุซุ ย๊อด กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
สมรสกับเทียน ซูฮาร์โต มีบุตร-ธิดา 6 คน
เป็นผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 3 คน
จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยดัทซ์ ที่กอมปอง เพตา
(หน่วยนายทหารอินโดนีเซีย โดยความอุปถัมภ์ของญี่ปุ่น)
และเข้ารับการอบรมหลักสูตร "ซี" กองบัญชาการทหารบก
และวิทยาลัยเสนาธิการ รับราชการเป็นทหารถึงยศนายพล
...
เทียน ซูฮาร์โต (Ibu Tien Soeharto)
ภริยาของซูฮาร์โต
ต่อมาหันมาเล่นการเมืองสังกัดพรรคโกลคาร์
เป็นประธานาธิบดี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2511
(โดยอยู่ในตำแหน่ง ได้คราวละ 5 ปี
จากนั้นก็ได้รับการลงคะแนนจากรัฐสภาติดต่อกันอีก)
เขาอยู่ในตำแหน่งนานถึง 32 ปี
ตั้งแต่ปี 2511 จนถึงปี 2541
...
จนกระทั่งประชาชนทนไม่ไหว
ต่อการปกครองแบบเผด็จการ
ได้ลุกฮือออกมาประท้วงขับไล่
ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี
เป็นผลสำเร็จเมื่อปี 2541
หลังจากนั้นก็ถูกดำเนินคดีจากข้อหาคอร์รัปชัน
ซึ่งอยู่ระหว่างการให้ปากคำในชั้นศาลยืดเยื้อ
จนล้มป่วยเมื่อหลายปีมาแล้ว
(ภาพจาก BBC news 18 December, 2001)
ซูฮาร์โตป่วยมาหลายปีแล้ว
ในภาพเป็นเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2001
Tommy หรือ Hutomo Mandala Putra
ลูกชายคนเล็กของซูฮาร์โตซึ่ถูกจับดำเนินคดีในข้อหาการคอรัปชั่น
ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมบิดาที่โรงพยาบาล
ฮูโตโม มันดาลา บุตรา บุตรคนที่ 5 ของประธานาธิบดีซูฮาร์โต
มีธุรกิจหลายอย่างที่ร่ำรวยมาจากการได้สิทธิพิเศษ สัมปทานผูกขาด
จากการอิงแอบอำนาจของบิดา
ก่อนหน้านี้องค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ(ทีไอ)
เคยระบุว่า อดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต แห่งอินโดนีเซีย
ครองอันดับหนึ่งผู้นำที่โกงกินมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ตามบัญชีจัดอันดับ 10 ผู้นำทุจริตคอร์รัปชันที่สุดของโลก
ในรอบ 20 ปี โดยมาร์กอส อดีตผู้นำของฟิลิปปินส์มาเป็นอันดับ 2
รายงานดังกล่าวประเมินว่า ตระกูลซูฮาร์โต
(1967-9โกงกินประเทศชาติไปราว 15,000-35,000 ล้านดอลลาร์
ระหว่างที่เขากุมอำนาจปกครองประเทศนานถึง 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1967
ผู้ที่ติดอันดับที่ 2 ได้แก่ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์(1972-86)
ซึ่งก้าวเข้ามาสู่อำนาจเมื่อปี 1972 ด้วยการคอร์รัปชันประเทศชาติ
ไป 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์
ในระหว่างที่มีอำนาจนั้น ประธานาธิบดีซูฮาร์โต
ก็ถือเป็นหนึ่งในสิบอภิมหาเศรษฐีรวยที่สุดของโลก
ด้วยสินทรัพย์ส่วนตัว 16,000 ล้านดอลลาร์
นิตยสารฟอร์บส์ เคยรายงานไว้ว่า
แหล่งสร้างความร่ำรวยให้แก่ประธานาธิบดีซูฮาร์โต
คือหุ้นที่ซูฮาร์โตถือครองในบรรดาบริษัทธุรกิจระดับยักษ์ของอินโดนีเซีย
โดยมีข้อมูลว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะเอื้อประโยชน์สูงสุด
แก่บริษัทที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับท่านประธานาธิบดี
บรรดาเครือข่ายธุรกิจที่สร้างรายได้ปันส่วนแบ่งป้อนให้แก่ซูฮาร์โต
จะได้รับสิทธิผูกขาดในหลายหลากธุรกิจ
ภายใต้รูปแบบ ใบอนุญาต-สัมปทาน
แต่เพียงผู้เดียว หรือเพียงสองสามราย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังปี 1982
รัฐบาลอินโดนีเซียบังคับใช้ระบบ "เทรดเดอร์รับอนุญาต"
เพื่อผูกขาดการนำเข้าและการจัดจำหน่ายสินค้านำเข้า
ให้อยู่ในอำนาจของหน่วยงานรัฐเพียงบางหน่วย
สิทธิผูกขาดเหล่านั้นจะทยอยถ่ายโอนสู่เครือข่ายธุรกิจในอุปถัมภ์
ประธานาธิบดีซูฮาร์โต สามารถพลิกฐานะจากลูกชาวนา
มาเป็นอภิมหาเศรษฐีของโลก
หลังซูฮาร์โต ผูกขาดตำแหน่งผู้นำอินโดนีเซียมา 32 ปี
อินโดนีเซียเจอพิษเศรษฐกิจในปี 1998
การลุกฮือครั้งใหญ่ของประชาชนจึงปะทุขึ้น
ทหารและตำรวจใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรง
แต่ยิ่งปราบเหมือนยิ่งปลุก การจลาจลลุกลามไปทั่ว
จนซูฮาร์โตจำต้องประกาศสละเก้าอี้ในที่สุด
และในช่วงปลายปีนั้น นักศึกษาอินโดนีเซีย
ได้ลุกฮือขึ้นเรียกร้องรัฐบาล
ให้ดำเนินคดีโกงชาติกับอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต
เรียบเรียงจากข้อมูลจากไทยรัฐ 27 ม.ค. 51,
BBC News และจากบางตอนของบทความ โดย สุรวิชช์ วีรวรรณ 20 ตุลาคม 2548
ใน www.adslthailand.com/
ภาพจาก BBC News
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น