เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ด้วยสมองและสองมือ



นิตยสาร IMAGE มีนาคม ๒๕๕๔
ด้วยสมองและสองมือ
ภาวัน

ใครที่ได้ไปเยือนเกาหลีหรือแม้เพียงแค่ได้ยินกิตติศัพท์ประเทศนี้ก็ตาม คงนึกไม่ถึงว่าเมื่อ ๕๐ ปีก่อน เกาหลีเคยเป็นประเทศที่ยากจน เทียบไม่ได้กับพม่าหรือฟิลิปปินส์ด้วยซ้ำ เวลานั้นเกาหลีเต็มไปด้วยคนอดอยากหิวโหย กว่าครึ่งของงบประมาณประเทศได้มาจากการช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา อุตสาหกรรมก็มีน้อยมาก ว่ากันว่าทั้งประเทศผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าบริษัทฟอร์ดในดีทรอยท์เสียอีก

เกาหลีเริ่มมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจังเมื่อปี ๒๕๐๔ ปีเดียวกับไทย (ซึ่งอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการเช่นเดียวกัน) ภายในเวลาไม่ถึง ๒๐ ปี เกาหลีสามารถผลิตรถยนต์ เรือเดินสมุทร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเหล็กกล้า ตีตลาดโลก รวมทั้งเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคในอีกไม่กี่ปีต่อมา

เกาหลีพัฒนาอุตสาหกรรมโดยเริ่มต้นจากมือเปล่าก็ว่าได้ ความสำเร็จดังกล่าวมิได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เกิดจากการทำงานหนักด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น และคนที่มุ่งมั่นยิ่งกว่าใคร ๆ ก็คือปากจุงฮี ผู้เป็นประธานาธิบดี ทันทีที่เขาได้อำนาจจากการรัฐประหารก็ผลักดันให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนโดยมีญี่ปุ่นเป็นแบบอย่าง เน้นการส่งออกโดยการสนับสนุนของรัฐอย่างเต็มที่

เขาไม่เพียงกำกับการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังติดตามโครงการต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชนแทบทุกโครงการอย่างไม่วางมือเพื่อให้เป็นไปตามแผน แม้เขาจะรับฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาก็มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก หากตั้งใจว่าจะทำอะไรแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ แม้อุปสรรคจะมากมายเพียงใดก็ตาม

หลังจากที่ได้เห็นทางด่วนของเยอรมนีตะวันตก เขาใฝ่ฝันอยากเห็นเกาหลีมีทางด่วนชั้นดีทั่วประเทศบ้าง เขามั่นใจว่ามันจะทำให้การค้าและอุตสาหกรรมของประเทศรุดหน้า เขาจึงเร่งรัดให้มีการสร้างทางด่วนจากโซลไปปูซานทันที แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับความคิดของเขาเลยเพราะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงกว่างบประมาณทั้งประเทศเสียอีก แม้แต่ธนาคารโลกก็เห็นว่าการสร้างถนนธรรมดา ๆ น่าจะเหมาะกว่า

แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขารับเอาโครงการนี้มาดำเนินการเอง เขาสั่งให้ลูกน้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้างทางด่วนในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่ชิลีถึงรัสเซีย วันแล้ววันเล่าเขานั่งเฮลิคอปเตอร์บินทั่วประเทศเพื่อกำหนดจุดที่ถนนตัดผ่านด้วยตัวเอง และเมื่อมีการก่อสร้าง เขาก็บินมาติดตามความคืบหน้าและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในที่สุดถนนยาว ๔๒๐ กิโลเมตรก็สร้างสำเร็จโดยใช้เวลาแค่ สองปีครึ่งเท่านั้น

เมื่อเกาหลีประสบความสำเร็จในการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เขาเห็นว่าเกาหลีจำเป็นต้องก้าวสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักได้แล้ว เขาจึงพยายามผลักดันให้มีโรงงานผลิตเหล็กกล้า แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเช่นเคย รวมทั้งธนาคารโลก เพราะเกาหลีตอนนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าเทคโนโลยี เงิน วัตถุดิบ รวมทั้งวิศวกรที่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่เขาก็สามารถผลักดันจนสำเร็จ นั่นเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เกาหลีเขยิบมาสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา

อุตสาหกรรมประเภทหนึ่งที่สร้างชื่อให้เกาหลีก็คือ อุตสาหกรรมต่อเรือ แต่ตอนที่ปากจุงฮีผลักดันเรื่องนี้ ไม่มีใครเห็นด้วยเช่นเคย นานาประเทศส่ายหัวกับโครงการนี้ จึงไม่มีใครให้เงินกู้ยืม แต่หลังจากวิ่งเต้นทุกวิธี โครงการนี้ก็เริ่มต้นได้ท่ามกลางความไม่มั่นใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งวิศวกรต่อเรือ แม้เมื่อต่อเรือเสร็จ ก็ไม่มีใครแน่ใจว่ามันจะลอยน้ำได้ แต่หลังจากที่ต่อเรือลำแรกได้สำเร็จ ภายในเวลาไม่ถึงสิบปี อุตสาหกรรมต่อเรือของเกาหลีก็เติบใหญ่กลายเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ควรกล่าวด้วยว่าความสำเร็จดังกล่าวมิได้เป็นผลแห่งความมุ่งมั่นของปากจุงฮีคนเดียวเท่านั้น หากยังเป็นเพราะอุตสาหะของผู้คนอีกมากมาย ทางด่วนเชื่อมโซลกับปูซานสำเร็จได้ในเวลาที่รวดเร็วก็เพราะประธานบริษัทก่อสร้างลงไปกินนอนและขลุกอยู่กับลูกน้องตั้งแต่เช้าจนค่ำ ประธานคนเดียวกันนี้แหละที่เคี่ยวเข็ญคนงานวันแล้ววันเล่าจนต่อเรือเดินสมุทรลำแรกได้สำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทฮุนไดมาจนทุกวันนี้

ในทำนองเดียวกันโรงงานเหล็กกล้ากลายเป็นจริงขึ้นได้ก็เพราะได้ประธานบริษัทที่ทำงานหนัก สู้หัวชนฝาและทำงานติดดิน มีคราวหนึ่งเขาขึ้นไปตรวจโครงโรงงาน ได้พบว่ามีน็อตบางตัวหลวม เขาจึงพาผู้จัดการทุกฝ่ายช่วยกันตรวจน็อตทั้งโรงงานรวม ๒ แสน ๔ หมื่นตัว เพื่อให้แน่ใจว่าน็อตทุกตัวจะถูกไขให้แน่นหนา

ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของเกาหลี ซึ่งใคร ๆ ยกย่องว่าเป็น “ปาฏิหาริย์”นั้น ได้มาโดยแลกกับสิ่งมีค่าหลายอย่าง อาทิ ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ แต่บทเรียนอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ ความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามนั้น สามารถทำสิ่งยากที่ใคร ๆ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ ปาฏิหาริย์จึงมิได้อยู่ที่ไหน หากอยู่ที่สมองและสองแขนของเรานี้เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น