เจริญพร ขอให้มีความสุขสมหวังและ ถึงความสิ้นทุกข์ในเวลาอันใกล้โดยง่ายเทอญ

ยินดีต้อนรับ สหธรรมิกผู้มีใจเป็นกุศลทุกๆท่านครับ

ขอเรียนเชิญ สหธรรมิกทุกๆท่านมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ข้อคิด คำแนะนำ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาครับ

" ความมืดแม้ทั้งโลก ก็บดบังลำแสงเพียงน้อยนิดมิได้ "


สันโดษ

สันโดษ
สุขใด เสมอความสงบ ไม่มี

หน้าเว็บ

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียน อโหสิให้ทุกคน แต่อย่ามีเวรกรรมร่วมกันอีกเลย

ผู้ติดตาม

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าสุดประทับใจ จากวิกฤตภัยพิบัติญี่ปุ่น

เรื่องเล่าสุดประทับใจ จากวิกฤตภัยพิบัติญี่ปุ่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์ , jma.go.jp , i.imgur.com

นับเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญกับวิกฤตภัยพิบัติอย่างไม่ทันตั้งตัว จากเหตุการณ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างความเศร้าสลดและสะเทือนใจไปทั่วโลกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้


แต่นอกจากความเศร้าสลดที่รู้สึกได้ไปทั่วโลกนั้น ใครจะเชื่อว่ายังมีเรื่องราวน่ารักน่าประทับใจเกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน ด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความมีระเบียบวินัย และการยื่นมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างน่าทึ่งของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องราวมากมายได้ถูกบอกเล่า และถ่ายทอดผ่านทวิตเตอร์ ให้ผู้คนทั่วโลกได้น้ำตาซึมไปตาม ๆ กัน วันนี้ กระปุกดอทคอมจึงขอหยิบยกคำบอกเล่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตภัยพิบัติญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ

1. ลูกชายวัย 5 ขวบบอกฉันว่า "อย่ากังวลเลยแม่ ป้องกันศีรษะตัวเองไว้ดี ๆ เวลาเกิดแผ่นดินไหว แล้วผมจะพาแม่ไปอยู่กับคุณตาหลังจากแผ่นดินไหวสิ้นสุดลง" และท่าทีของลูกที่พยายามจะปกป้องฉันด้วยร่างกายน้อย ๆ ก็ทำให้ฉันร้องไห้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคำว่า "อย่ากังวล" ของเด็กตัวเล็ก ๆ จะมีความหมายที่ยิ่งใหญ่กับฉันได้ ขอบคุณจริง ๆ

2. วันเกิดเหตุ ฉันประทับใจกับการกระทำของเด็กชายข้างบ้านวัย 13 ปีมาก เขาอยู่บ้านคนเดียวขณะที่เกิดแผ่นดินไหว แต่แทนที่เขาจะหลบอยู่ในบ้าน เขากลับกระโดดคว้าจักรยานแล้วปั่นไปตามถนนพร้อมกับตะโกนว่า "ทุกคนเป็นยังไงบ้าง ทุกคนปลอดภัยดีใช่ไหมครับ" ในตอนนั้นมีเพียงหญิงชรา เด็ก และผู้หญิงอยู่ในบ้าน ฉันไม่อาจจะอธิบายได้เลยว่าฉันรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้ยินเสียงหนักแน่นนั้นถามว่า ฉันปลอดภัยไหม ขอบคุณนะ ขอบคุณจริง ๆ


3. เด็กชายคนหนึ่งกำลังถือถุงขนมมาต่อแถวจ่ายเงินที่แคชเชียร์ และเขากำลังจะจ่ายตังค์ค่าขนมที่ซื้อมาอยู่แล้ว แต่เขากลับมองไปเห็นกล่องบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในที่สุด นาทีต่อมา ผมก็เห็นเขาหย่อนเงินทั้งหมดที่มีลงในกล่องรับบริจาคที่อยู่ข้าง ๆ แคชเชียร์ ก่อนจะเอาขนมในมือกลับไปวางไว้ที่เดิมแล้วเดินออกจากร้านไป หลังจากนั้น ผมได้ยินพนักงานแคชเชียร์พูดว่า "ขอบคุณมาก ๆ" ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเบา ๆ

4. วันนี้ผมได้รับข้อความสั้น ๆ จากเพื่อนที่ทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้าฟุกุชิม่า ก่อนที่เขาจะออกไปปฏิบัติภารกิจว่า "ผมไม่สนใจว่าผมจะต้องตายหรอก ยังไงผมจะต้องยับยั้งมหันตภัยจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ได้" และมันทำให้ผมร้องไห้ขณะอ่านข้อความนี้

5. การขนส่งใช้การไม่ได้เลย และฉันเหนื่อยกับการรอคอยอันยาวนาน แต่ทันใดนั้น ขอทานคนหนึ่งได้ยื่นกระดาษแข็งแผ่นหนึ่งมาให้ฉันแล้วบอกฉันว่า "เอานี่ไปสิ มันทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นขึ้นได้" ไม่น่าเชื่อเลย ฉันเคยมองผ่านขอทานพวกนี้ไปแม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาขอเศษเงินก็ตาม แต่สิ่งที่เขาทำกับฉันกลับแสนดีเหลือเกิน

6. ขณะที่ผู้คนกำลังยืนรอรถบัสอยู่นานสองนานท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ผู้หญิงคนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปในร้านขายยาที่อยู่หน้าป้ายรถเมล์ แล้วซื้อแฮนด์วอร์มเมอร์ออกมาหลายชิ้น ก่อนจะแจกให้กับทุกคนที่กำลังรอรถบัสอยู่ในขณะนั้น

7. ฉันพูดกับพนักงานสถานีรถไฟฟ้าโตเกียวว่า "คืนนี้ต้องเป็นคืนที่ทรหดสุด ๆ เลยนะ ขอบคุณมากค่ะ" และเขาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มว่า "เวลาอย่างฉุกเฉินอย่างคืนนี้ ผมเต็มใจครับ" ฉันประทับใจเหลือเกิน

8. ฉันส่งอีเมล์ถึงสามีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ด้วยความเป็นห่วงว่าเขาอาจไม่ได้พักผ่อนเลยว่า "คุณสบายดีไหม หักโหมกับงานมากเกินไปนะ" เขาตอบฉันกลับมาว่า "อย่าดูถูกกองกำลังป้องกันญี่ปุ่น จะมีครั้งไหนที่เราต้องหักโหมกับงานมากไปกว่าครั้งนี้อีกเหรอ ระวังคำพูดของเธอหน่อยสิที่รัก" พวกเขาเข้มแข็งมาก ทั้งกายและใจ

9. เมื่อฉันเปิดกระเป๋าสะพายฉุกเฉินดู ก็พบกับข้อความที่พ่อฉันเขียนไว้เมื่อ 40 ปีก่อน มีใจความว่า "ขอให้มีแสงสว่างในหัวใจ ขอให้มีเสียงเพลงบนริมฝีปาก" และฉันจะเขียนมันบนกระเป๋าสะพายฉุกเฉินใบใหม่ เพื่อให้กำลังใจทุกคนที่มาเห็น

10. กว่า 4 ชั่วโมงที่ฉันเดินกลับบ้าน ระหว่างทางมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับชูป้ายที่เขียนว่า "เชิญใช้ห้องน้ำของเราได้ตามสบายนะคะ" ทำเอาฉันน้ำตาไหล ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อบอุ่นที่สุดในโลกเลยจริง ๆ


11. ในจังหวัดชิบะ ชายชราคนหนึ่งได้พูดตัดพ้อขึ้นมาว่า "จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้กันนะ" แต่ทันใดนั้น เด็กหนุ่มไฮสคูลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่เป็นไรครับ อีกไม่นานหรอก เมื่อผมโตขึ้น ผมสัญญาว่าจะทำให้บ้านเมืองของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับลูบหลังชายชราเบา ๆ เหมือนกับจะตอบคำถามของชายชราว่า อนาคตที่สดใสนั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

12. ชายชราคนหนึ่งได้รับความช่วยเหลือหลังจากติดอยู่ในบ้านกว่า 42 ชั่วโมง แต่เขากลับยิ้มร่าแล้วเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "ฉันเคยอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ชิลี ฉันเห็นว่าทุกคนสามารถลุกยืนขึ้นได้อีกครั้งด้วยตัวเอง ฉันรู้ว่าคนญี่ปุ่นก็ทำได้"


และนี่ก็คือ 12 เรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนญี่ปุ่นก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน และเข้มแข็งที่จะเดินหน้าต่อไปเสมอ เช่นเดียวกับคำกล่าวจากค่ายอพยพที่ว่า "ทุกค่ำคืนที่ผ่านมา เซนไดไม่เคยมืดมิดเท่าค่ำคืนนี้มาก่อน เราจึงไม่เคยมองเห็นเลยว่า ดวงดาวนั้นสวยงามเพียงไร ชาวเซนไดทุกคน มองขึ้นไปบนฟ้าสิ มองขึ้นไปให้ไกล ๆ" ซึ่งดูเหมือนกับว่า ประโยคนี้จะสะท้อนนิสัยการมองโลกของชาวญี่ปุ่น และตอกย้ำกำลังใจที่จะเดินก้าวต่อไปได้ดีเลยทีเดียว


ประมวลภาพสึนามิ ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น