ถูกใจคำว่า”พัฒนาตนเองดีกว่ามั้ย?

ถูกใจคำว่า”พัฒนาตนเองดีกว่ามั้ย?”
คิดอยู่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี?.....ปกติเดี๋ยวนี้อาตมามักปล่อยให้ธรรมะจัดสรร จะไม่บงการจัดแจงอะไรให้วุ่นวายมากไป โดยสรุปก็คือทำตามเหตุ ปัจจัย จัดสรรและเมื่อแล้วก็แล้วไป เมื่อทำแบบนี้ได้ก็รู้สึกดี เป็นผลดี ไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น ดังที่เคยผ่านมา
แล้วก็เป็นดังนั้น มีเหตุมากมายที่จะกล่าวบอกทุกท่านที่เม้นท์ถามมา หรือตำหนิ หรือหาเรื่องทะเลาะ แต่ก็คลาดเคลื่อนทุกครั้ง มาวันนี้ธรรมะจัดสรรได้คอมเม้นท์จากอ.วิชิต เกริกไกวัล น้องชายฝาแผดของอ.วิชัย....เอ๊ะ เข้าท่าแฮะ..และมากๆด้วย จึงนำมาเป็นหัวข้อเรื่อง""พัฒนาตนเองดีกว่ามั้ย? "
ในจำนวนเม้นท์ทั้งหลาย มีส่วนน้อยมากกก...ที่เป็นเม้นท์ไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งบางครั้งก็เผลอ...อึดอัดใจบ้าง
เช่นเม้นท์ ประเภท

-ทำไม?...เค้าไม่ทำอย่างนี้ อย่างนั้น อย่างโน้น
-ทำไม?...เค้าถึงทำอย่างนี้ อย่างนั้น อย่างโน้น
-ทำไม?...คุณทำแบบนี้ไม่ถูกนะ ...BLA BLA BLA!!!!!!!!!
ซึ่งเป็นเรื่องของผู้อื่นทั้งสิ้นและยังเป็นสิทธิโดยชอบตามกฏหมายของเขาด้วย !!!!!! ก็ทำให้เราเผลอตามไปบ้างว่า "เออ..น่ะ แล้วไปเสนอหน้า วุ่นวายอะไรกะเขานักหนา" ผู้ถูกวิจารณ์เขาก็ไม่ได้ผิด ไม่ได้เป็นตามที่ผู้วิจารณ์ยัดเยียดให้สักหน่อย.....
ได้แต่ถอนหายใจ พอใจสงบ สติคืนมาบ้างก็ระลึกถึงพุทธศาสนสุภาษิตที่ได้ร่ำเรียนมานานว่า"กมฺมุนา วตตี โลโก... อันหมายถึง การกระทำของสัตว์โลกย่อมจำแนก จัดสรรสัตว์โลกให้เป็นไปตามสิ่งที่สัตว์โลกนั้นกระทำ ดังสุภาษิตคำพังเพยของไทยเราที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย สอนกันมาว่า

คนดี ชอบแก้ไข
คนจัญไร ชอบแก้ตัว
คนชั่ว ชอบทำลาย
คนมักง่าย ชอบทิ้ง
คนจริง ชอบทำ
คนระยำ ชอบติฯลฯ
ดังนั้น เรามาเป็นคนดีที่ชอบแก้ไขดีกว่า อะไรที่เราเคยผิดเคยพลาดก็ลืมไปเสีย อย่าไปหมกมุ่นจดจำ ย้ำคิดย้ำทำ ใครๆก็เคยพลาดกันมาแล้วทั้งนั้น..ก็ตั้งใจว่าจะไม่ทำผิด ทำพลาดอีก อภัยให้ตนเอง อภัยให้คนอื่น ไม่มีใครดีเลิศเลอ Perfect เอาพอประมาณ สุขพอประมาณจะได้ไม่หลงใหล ยินดีเท่าที่ได้ พอใจเท่าที่มี พยามองบวกเอาไว้แล้วจะดีเอง
เพราะอย่างน้อย อย่างมากเราก็ต้องตายทุกคน จะตายช้าหรือตายเร็วเท่านั้น คุณค่าของชีวิตก็อยู่ที่ อยู่เป็นสุข ไปเป็นสุขหรือไม่ อย่าไปคาดหวังลมๆแล้งๆหรือสร้างวิมานในอากาศ ถึงสวรรค์ชาติหน้าเลย เรามาพัฒนาตน พัฒนาตัว พัฒนาจิต พัฒนาใจก็จะทำให้อยู่เป็นสุข อยู่อย่างฉลาดรู้จักเลือเสพแต่ของที่สมควรและพอดี พึงใจในชีวิตที่มี เท่านี้ก็ได้ทั้งสวรรค์ในปัจจุบัน และย่อมเป็นสวรรค์ในอนาคตด้วยอย่างแน่นอน หากแต่ เราลดละ วางตัวตน ของกูได้ดี นิพพานคือความดับเย็นก็ไม่ต้องรอไกล เพราะเป็นผลทั้งปัจจุบันและอนาคตอย่างที่คนทั่วๆไปคาดไม่ถึง.....ดังนั้นจึงขอเชิญชวนอย่ามารีรอสวรรค์นิพพานในอนาคตเลย เรามาเป็นสุข มาดับเย็นกันตั้งแตเดี๋ยวนี้เห็นจะดีกว่าแน่




“ เมื่อคิดสร้างกุศลอย่าได้รีรอ แต่ต้อง ช้า หยุด พอ เมื่อจะทำความชั่ว
ทำได้ดังนี้ชีวิตจะไม่พบกับความลำบาก หรือทุกข์ใจเลย”......เจริญสุข เจริญใจ เจริญธรรม
พระนิธิพรรษ นิธินนฺโท
5 มีนาคม 2554